กรมควบคุมโรค ย้ำมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน ให้ผู้ปกครองกำชับบุตรหลาน เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนเรื่องเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนว่ามีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และพบแล้วใน 77 ประเทศ กรมควบคุมโรค จึงขอเน้นย้ำมาตรการให้ประชาชนป้องกันตนเองตลอดเวลา โดยยึดหลัก Universal Prevention หรือการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด โดยเฉพาะนักเรียนที่เรียนแบบ On-Site ในโรงเรียน ต้องเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ล้างมือ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร งดรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว หากต้องการแบ่งกันชิมให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว อาหารต้องปรุงสุกใหม่ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนการทำกิจกรรมควรทำในรูปแบบ Small Bubble หรือกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย อีกทั้งเว้นระยะห่างในห้องเรียน เพื่อลดความเสี่ยงโควิดในสถานศึกษา นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า เมื่อเด็กกลับมาถึงบ้านให้รีบทำความสะอาดร่างกาย ดูแลข้าวของเครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ และต้องหมั่นสังเกตอาการของคนในครอบครัว หากสงสัยว่าติดเชื้อโควิด 19 ให้รีบตรวจ ATK พร้อมกักตัวเองแยกออกจากคนในบ้าน แต่นอกจากการป้องกันตัวเองแล้ว ประชาชน ทุกคนควรได้รับวัคซีน ซึ่งสามารถป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ โดยได้ปรับให้ฉีดวัคซีนโควิดเข็มบูสเตอร์หรือเข็ม 3 ให้ห่างจากเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับเด็กนักเรียนช่วงอายุ 12-18 ปี สามารถเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ได้ตามความสมัครใจและความประสงค์ของผู้ปกครองและเด็ก