วันที่ 4 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอไชยา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบภัย และติดตามสภาพความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของตำบลปากหมาก อำเภอไชยา เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยจุดแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปยังพื้นที่หมู่ 7 ต.ปากหมาก ซึ่งจุดนี้พบว่า ได้เกิดเหตุคอสะพานบ้านคลองไม้แดง ถูกน้ำกัดเซาะได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ได้นำดินมาถมเพื่อให้ราษฎรได้สัญจรไปก่อชั่วคราว จากนั้นได้เดินทาง ไปยังบ้านเลขที่ 101/8 ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาวจารุวรรณ จิปริก ได้เกิดดินสไลด์ ทำให้บ้านพังได้รับเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งเจ้าของบ้านทราบว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะสนับสนุนงบประมาณ จากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัด ในการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ ให้เป็นเงินค่าวัสดุก่อสร้าง 220,000 บาท และค่าแรง 60,000 บาท แต่มีเงื่อนไข จะต้องย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปอยู่จุดปลอดภัยและจะต้องสร้างบนที่ดิน ที่มีเอกสารสิทธิ์ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและคณะ ได้เดินทางไปดูสภาพของสะพานที่ได้รับความเสียหาย โดยพบสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก เสียหายทั้งหมด 7 แห่ง ใน 5 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1,3,4,6,7 ตำบลปากหมาก โดยเฉพาะสะพานทางน้ำข้าม บ้านสวนป่าไชยา หมู่ 4 ข้ามไป หมู่ 6 ที่มีอายุกว่า 20 ปี ชาวบ้านใช้ประโยชน์กว่า 200 ครัวเรือน พบว่า ต้องไปใช้เส้นทางอื่นซึ่งไกลออกไปกว่า 10 กิโลเมตร และ หมู่ที่ 6 บ้านห้วยตาหมิง ทางน้ำข้าม ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย ราษฎรในพื้นที่ หมู่ที่ 6 กว่า 60 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่รอยต่อ ตำบลท่าประสงค์ อ.ท่าชนะ ซึ่งใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ซึ่งนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุน้ำป่าไหลหลากนั้น เบื้องต้นตนเองได้กำชับให้เร่งซ่อมแซมให้กลับมาใช้การได้โดยเร็ว และให้สำรวจความเสียหายทั้งหมดเพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนภัยซึ่งต้องให้ประชาชนทุกครัวเรือนทราบอย่างถั่วถึง ขณะที่สถานการณ์โดยรวมในจังหวัดจากเดิมที่ประกาศพื้นที่ประสบภัย 14 อำเภอ ขณะนี้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ 7 อำเภอ ที่อยู่ในที่ลุ่มแม่น้ำตาปี ที่เป็นจุดที่รองรับน้ำทั้งที่พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้ชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 52 เครื่องเร่งผลักดันน้ำออกสู่แม่น้ำตาปีเพื่อระบายลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด