วันที่ 4 ธันวาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียิง 2 ศพ สามีภรรยา และลูกชายบาดเจ็บ โดยเกิดจากความแค้นที่ผู้ก่อเหตุไปขโมยต้นกล้วยแดงด่างอินโดของพี่สาว แต่ถูกจับได้และมีการแจ้งความเป็นคดี ก่อนจะมีการบุกเข้าไปยิงกราดสะเทือนขวัญในช่วงกลางดึกที่จังหวัดนครปฐม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามปมการสังหารจากนางสาวประวีณา วงษ์คงคำ อายุ 42 ปี ภรรยา นายสมเจตน์ ภู่แก้ว อายุ 35 ปี มือยิงที่ถูกจับกุมตัวได้ บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่สามีบุกยิง นายคุณากร ปัญญาเตียน อายุ 57 ปี (สามี) และน.ส.สุกัญญา ภู่แก้ว อายุ 49 ปี (ภรรยา) โดยนางสุกัญญา มีศักดิ์ เป็นพี่สาวต่างมารดากับนายสมเจตน์ ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน มีสาเหตุจากการพูดจาข่มกันในวันเกิดเหตุจนทำให้สามีบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุตนเองและสามีนั่งกินหมูกระทะที่หน้าบ้านเนื่องจากเป็นวันเกิดของลูกชาย กระทั่งทั่งผู้ตายทั้งสอง ได้กลับมาที่บ้านพักแต่ก็ไม่มีการพูดจาแขวะข้ามบ้านเข้ามาให้ได้ยิน ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นคดีความกันหลังจากที่ สามีได้ไปขโมยต้นกล้วยด่างแดงอินโด จากบ้านผู้ตายและมีการแจ้งความกันไป โดยจะขึ้นศาลในวันที่ 22 ธันวาคมที่จะถึงนี้ และที่ผ่านมาก็โดนพูดจากระทบกรเทียบกันมาโดยตลอดซึ่งสามีก็ยอมรับการกระทำ แต่อีกฝ่ายได้บอกว่าจะเอาควาให้ถึงที่สุด ช่วงที่เกิดเหตุ ก็ยังถูกกระทบกระเทียบมาอีก จนสามีทนไม่ไหวจึงลุกไปคว้าปืนยิงดังกล่าว ส่วน นายฆนากร ปัญญาเตียน อายุ 23 ปี ลูกชาย ผู้ตาย ที่ถูกยิงที่ขา ได้รับบาดเจ็บบอกว่า ช่วงเกิดเหตุพ่อกับแม่ได้กลับมาจากการขายของตลาดนัดกำลังขนของลงจากรถนั้น ทางฝ่ายมือยิงได้นั่งตั้งวงกินหมูกะทะ และได้ตะโกนพูดจาเหมือนจะหาเรื่องเข้ามาให้ได้ยิน จนยิ่งดึกก็เริ่มเปิดเพลงเสียงดังขึ้น และตะโกนว่าวันนี้จะต้องมีเรื่องให้ได้ ไม่นานก็มีการยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัดจากห้องของเขา สักพักก็มาที่หน้าบ้านและยิงใส่เข้ามา 2-3 นัด ตอนนั้นประตูบ้านได้แง้มไว้ ซึ่งตนเองกับพ่อได้ไปหยิบไม้เพื่อจะมาตี แต่มือยิงยังอยู่ห่างจึงได้แต่ขว้างไม้ออกไป โดยตนเองถูกยิงที่ขาจนล้มลง ส่วนพ่อพยายามวิ่งเข้ามาช่วยเพื่อจะรวบตัว แต่ก็ถูกยิงใส่ตัว 2-3 นัด จังหวะนั้นตนเองได้พยายาม จะลากพ่อเข้าบ้าน มือยิงได้บุกเข้ามาและท้าทายแม่ที่อยู่ในบ้าน ให้ออกมา ขณะที่กระสุนหมด และมือยิงได้เข้าไปใส่กระสุนใหม่ ก่อนจะบุกเข้าไปยิงแม่เข้าที่เบ้าตาและหู ใบหน้า จังหวะที่แม่จะลุกขึ้นก็ยิงซ้ำที่ไหปลาร้า จนล้มลง และมือยิงได้กลับมายิงซ้ำ ขณะที่พ่อซึ่งถูกยิงก่อนหน้านั้นทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายต่อหน้าต่อตา หลังเกิดเหตุตนเองได้โทรเรียกพี่ชายข้างๆบ้านให้มาช่วย และแจ้งตำรวจ ส่วนกล้วยไม้ที่ถูกขโมยไปนั้น มือยิงได้นำมาคืนแต่ก็มาในสภาพที่ต้นถูกฟันและมีการใช้อะไรราดไปที่รากให้เน่า ซึ่งตนเองรับมาแล้วเอามาดูแลต่อแต่ก็ตายในที่สุด ซึ่งมีราคาเพราะมีคนมาขอซื้อแล้วแต่ไม่ได้ขายเนื่องจากจะเพาะหน่อขาย วันเดียวกันช่วงเย็น ศพของสามีภรรยา ได้นำมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดใหม่ปิ่นเกลียว อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งมีลูกชายและญาติมาทำการรดน้ำศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และมีเสียงร้องไห้และสาปแช่งมือยิง เนื่องจาก เป็นพี่น้องต่างมารดากัน ยิ่งเป็นเรื่องสลดใจกับคนที่มาร่วมงานดังกล่าว โดยทั้งคู่มีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 9 ธันวาคม ที่จะถึงนี้