ข้อมูลเท็จ! “รบ.” ย้ำสหประชาชาติไม่ได้ขีดเส้นไทยแก้ ม.112เตือนประชาชนอย่าเชื่อข้อมูลเท็จ ด้าน"ชินวรณ์" ย้ำยกเลิกไพรมารี่โหวต-คำนวณ ส.ส. ยึดแบบร้อยละ จ่อชงร่างพรรคร่วมรัฐบาล ปลายธ.ค.นี้ไม่หวั่น "บิ๊กป้อม" ประกาศพปชร.เตรียมกวาดส.ส.กทม.เพิ่ม มั่นใจ "ประชาธิปัตย์" ที่พึ่งประชาชน ส่วน “นิพิฏฐ์” โพสต์ “I shall return”ลือสะพัดเตรียมอำลาปชป. จับมือ 4 กุมาร ตั้งพรรคการเมืองใหม่
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่ “ข้อมูลเท็จ” สหประชาชาติให้ประเทศไทยแก้ไข ม.112 ว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามทางสหประชาชาติไม่ได้เป็นองค์การที่จะมาบังคับ หรือมาขีดเส้นตาย เพื่อกำหนดเวลาให้ประเทศสมาชิกต้องตอบรับข้อเสนอแนะหรือต้องไปแก้กฎหมาย โดยจากการรายงานสิทธิมนุษยชนของไทยตามกลไก Universal Periodic Review เป็นที่น่าชื่นชมที่ไทยได้รับคำชมในพัฒนาการหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม นโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการลดความเหลื่อมล้ำ และการดูแลกลุ่มเปราะบาง จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและไม่ส่งต่อข้อมูล ส่วนผู้ผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอมบิดเบือนหรือเฟคนิวส์ เสี่ยงจะถูกดำเนินคดี ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ในฐานะคณะทำงานเพื่อเตรียมการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.ป.พรรคการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงเนื้อหาร่างพ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ว่า ร่างของ ปชป. ในประเด็นเรื่องการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเอาความชัดเจนตามรัฐธรรมนูญ ที่มีการระบุชัดเจนแล้วว่าจะเป็นสัดส่วนสัมพันธ์โดยตรงกับจำนวนบัญชีรายชื่อคือจำนวน 100 คน ฉะนั้นหากได้ร้อยละ 60 ก็จะได้ ส.ส. 60 คน ที่เหลือหากพรรคการเมืองใดมีเศษมากที่สุดก็จะได้ส.ส.พรรคนั้นไป
นายชินวรณ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องไพรมารี่โหวต ขณะนี้มีความคิดเห็นเดิมคือ ไม่เห็นด้วยกับไพรมารี่โหวตเพราะคิดว่าการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนควรมาจากระบบพรรคการเมือง เพื่อทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่ระบบที่ทำตามบทเฉพาะกาลในคราวที่ผ่านมาเนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติได้จริงและเป็นเรื่องของการจัดทำไพรมารี่โหวตแบบจอมปลอมคือ ให้เสนอมา 100 ชื่อแล้วให้เลือกตัวเองและส่งชื่อตัวเองไป ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นภาระกับพรรคการเมืองโดยไม่ใช่เหตุ เป็นต้นทุนของนักการเมืองที่หากนักการเมืองที่มีเงินก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เราคิดว่าไม่ควรจะมาใช้จ่ายกับเรื่องนี้ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปแต่ก็จะไปคุยกับคณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะทำอย่างไรที่จะลดขั้นตอนที่ซับซ้อนเหล่านี้ให้ออกไปได้มากที่สุด
เมื่อถามว่า จะเสนอร่างให้กับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในช่วงเวลาใด นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้มอบหมายให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคไปเสนอร่างมาเข้าที่ประชุมคณะทำงานในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นหากเห็นพ้องต้องกันเป็นส่วนใหญ่เราก็จะเสนอร่างในนามของพรรคร่วมรัฐบาล โดยที่ตกลงกันไว้ก็จะเสนอเป็นร่างฉบับเดียว เพื่อให้เอกภาพและคาดว่าปลายเดือนธันวาคมน่าจะลงชื่อร่วมกันได้
นายชินวรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะกวาดเก้าอี้ส.ส.กทม. เพิ่มอีก 12 ที่นั่ง จากเดิมที่พรรคมีส.ส.กทม.อยู่แล้ว 12 ที่นั่งว่า ทุกพรรคมีสิทธิ์ที่จะประกาศ แต่พรรคไหนจะได้ส.ส.จำนวนเท่าใด อยู่ที่ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ตนเคารพประชาชนและมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เราก็เป็นที่หวังพึ่งของประชาชนตลอดมา ฉะนั้นเข้าใจว่าในกทม.พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะต้องได้ส.ส.เพิ่มแน่นอน
เมื่อถามว่า ให้ไปสู้กันในสนามการเลือกตั้งว่าประชาชนจะเลือกใครใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า คนจะดูนโยบาย ดูพรรคการเมือง ดูตัวบุคคลประกอบกัน ซึ่งต้องเคารพในฐานะที่เราเป็นนักประชาธิปไตย เป็นผู้ที่มาจากการเลือกตั้งก็ต้องเคารพเสียงของประชาชน เพียงแค่เป็นห่วงอย่างหนึ่งคือทุกพรรคต้องเคารพกฎกติกาในการเลือกตั้ง ต้องไม่ไปทำอะไรที่ใช้อำนาจรัฐหรือใช้อำนาจเงินมาเป็นปัจจัยสำคัญในการหาเสียง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “I shall return (ฉันจะกลับมา)” โดยได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นพร้อมให้กำลังใจนายนิพิฏฐ์เป็นจำนวนมาก และเรียกร้องให้กลับมาลงสมัครส.ส.พัทลุงอีกครั้ง ขณะที่นายนิพิฏฐ์ได้ตอบกลับความคิดเห็นช่วงหนึ่งว่า “ทำสงครามครั้งสุดท้าย เพื่อคนพัทลุง พี่จะสมัครหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ขอส.ส.พัทลุง ทั้ง 3 คน 3 เขต เพื่อพัทลุง อย่าให้เลือกเพื่อให้คนนั้น คนนี้ ได้เป็นส.ส. แต่ต้องเลือกเพื่อคนรุ่นลูก รุ่นหลาน”
รายงานว่า นายนิพิฏฐ์เตรียมจะไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในต้นเดือนธ.ค.นี้ และจะไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ร่วมกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ,นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ