เร่งปิดประกาศ ตั้งรางวัลนำจับ 2 หมื่นบาท ล่าโจรบาปฉกเงินล้านพร้อมพระเครื่องมูลค่าสูงในวัดสนามช้าง เชื่อคนใกล้ชิดคนร้ายน่าจะรู้ตัวแล้ว หลังมีชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวจนกระแสข่าวแพร่สะพัดไปทั่ว อีกทั้งพาหนะที่คนร้ายใช้ยังมีจุดเด่นสังเกตเห็นได้ง่าย เผยเงินจำนวนมากนับล้านเป็นปัจจัยจากญาติโยมที่ถวายให้ ขณะออกไปรับกิจนิมนต์แต่พระสงฆ์ยังไม่มีกิจต้องใช้จึงได้แต่เก็บไว้ภายในตู้ไม่เคยนำออกมาใช้จ่ายเป็นเวลานานนับ 10 ปี วันที่ 27 พ.ย.64 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ออกมารวมตัวเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางคล้า ออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าทางคดี กรณีมีคนร้ายบุกเข้ามางัดกุฏิพระและโจรกรรมทรัพย์สิน เป็นเงินเก็บของพระสงฆ์จำนวนกว่า 1 ล้านบาท พร้อมด้วยพระเครื่องมูลค่าสูงจากภายในวัดสนามช้างไป เมื่อวันที่ 19 ก.ย.64 ซึ่งในวันนี้ (27 พ.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า ได้นำประกาศจาก พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก.สภ.บางคล้า ที่ได้มีการตั้งรางวัลนำจับให้แก่ทางผู้ที่สามารถแจ้งเบาะของคนร้ายจนนำไปสู่การจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ เป็นจำนวนเงิน 2 หมื่นบาท เพื่อนำไปปิดประกาศไว้ตามแหล่งชุมชน โดยเฉพาะตามตลาดนัด หรือสถานที่ที่มีผู้คนออกมาเดินกันอย่างพลุกพล่าน โดยในแผ่นปิดประกาศได้มีภาพของคนร้ายที่ได้มาจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพรูปพรรณและยานพาหนะของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจนจากทางด้านหลัง ซึ่งเป็นชายสูงประมาณ 170 ซม. รูปร่างสันทัด ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้ารุ่น เวฟ 125 I สีน้ำเงิน-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เบาะนั่งสีแดงจากโรงงาน ล้อแม็กสีดำจากโรงงาน สวมหมวกกันน็อคสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสามส่วนสีครีม และสวมรองเท้าแตะ โดยหากประชาชนทั่วไปพบเห็นบุคคลตามภาพดังกล่าว หรือสามารถให้ข่าวจนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้มีรางวัลนำจับ 20,000 บาท สำหรับช่องทางในการแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถประสานมายัง สภ.บางคล้า ตามหมายเลข 038-541111 หรือติดต่อมายัง พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก.สภ.บางคล้า ทางหมายเลขโทรศัพท์ 09-4495-4559 เพื่อดำเนินการเข้าไปจับกุมตัวคนร้ายต่อไป ขณะเดียวกัน นายวิฑูรย์ ศรีสุนทร อายุ 64 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สำหรับแหล่งที่มาของเงินกว่า 1 ล้านบาท ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมหายไปนั้น เป็นเงินเก็บสะสมของพระสงฆ์ เป็นปัจจัยที่พระชัยรัตน์ ธมฺมรตโน อายุ 45 ปี พรรษา 24 รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสนามช้าง ได้รับมาจากญาติโยมที่ถวายให้ในขณะออกไปรับกิจนิมนต์ หลังจากบวชมานานถึง 24 พรรษา ก่อนจะนำมาเก็บใส่ไว้ภายในตู้โดยที่ไม่ได้มีกิจธุระอะไรที่จะนำออกมาใช้จ่าย เนื่องจากบวชเป็นพระสงฆ์จึงไม่ได้ใช้เงิน ประกอบกับยังมีเงินบางส่วนที่ทางครอบครัว คือ บิดา มารดา และญาติพี่น้อง ได้นำมาถวายไว้ให้ เพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายในการรักษาตัวหากเกิดไข้ได้ป่วย เนื่องจากพระชัยรัตน์ เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของครอบครัว วิฑูรย์ ศรีสุนทร ทั้งนี้พระชัยรัตน์ ยังมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อถึก หรือพระครูประดิษฐ์สุตาคม ชื่อเดิม “ถึก ศรีสุนทร” ฉายาติสโส อดีตเข้าอาวาสวัดสนามช้าง และเจ้าคณะอำเภอบางคล้า เมื่อ พ.ศ. 2509 ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้เป็นปู่ของพระชัยรัตน์ รักษาการเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน นอกจากนี้ หลวงพ่อสว่าง เตียวทรัพย์ เจ้าอาวาสวัดสนามช้างรูปต่อมา ยังเป็นหลานของน้าของหลวงพ่อถึกอีก จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพรักและศรัทธาต่อรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสนามช้างรูปปัจจุบันแห่งนี้ เนื่องจากเป็นพระลูกหลานของเกจิอาจารย์ผู้มีคุณูประการและมีชื่อเสียงในพื้นที่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ส่วนประวัติของหลวงพ่อถึกนั้น พระครูประดิษฐ์สุตาคม เกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2466 เป็นพระสงฆ์ผู้สนใจศึกษาจนสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา คือ ไทย จีน เขมร และอังกฤษ เป็นผู้สนับสนุนด้านการศึกษาจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานอำนวยการสอบธรรมสนามหลวง อ.บางคล้า มาโดยตลอด และเป็นเจ้าสำนักเรียนปริยัติธรรม วัดสนามช้าง ทั้งยังส่งเสริมให้มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน และสร้างโรงเรียนวัดสนามช้าง อีกด้วย ทั้งยังเป็นพระครูผู้นำในการรวบรวมทุนทรัพย์ เพื่อจัดสร้างโบสถ์ กุฏิ หอสวดมนต์ รวมทั้งศาสนสถาน ภายในวัดสนามช้างอีกมากมาย จึงได้รับสมณะศักดิ์จากพระครูชั้นประทวน ให้เลื่อนสมณะศักดิ์สูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปี พ.ศ.2482 จนถึงในปี พ.ศ.2527 จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ก่อนที่จะอาพาธลงด้วยโรคหัวใจ เมื่อปี พ.ศ.2527 และเข้ารับการรักษายัง รพ. ในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องหลายครั้ง และมรณะภาพลงเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2530 ที่วัดสนามช้าง