โควิดสงขลาพุ่งไม่หยุด พบติดเชื้อรายใหม่ 441 ราย อันดับ 2 ของประเทศ สะสมทะลุ 61,388 ราย ดับ 2 ราย สะสม 261 ราย สสจ.คลอดวัคซีน ” รักใคร ห่วงใคร ชวนไปฉีดวัคซีน” “เผย”ใกล้ทะลุเป้าร้อยละ 75 วันที่ 27 พ.ย.64 กลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง สำนักงานสาธารณสุข(สสจ.)สงขลารายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่วันที่ 27 พ.ย. 441 ราย อันดับ 2 ของประเทศ และอันดับ 1 ของภาคใต้ ส่งผลให้ติดเชื้อสะสม 61,388 ราย เสียชีวิต 2 ราย เสียชีวิตสะสมทะลุ 261 ราย ที่ยังนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 5,900 กว่าราย ซึ่งพบติดเชื้อจำนวนมากที่สุดจากกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ และยังพบมากในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จะนะและ อ. เมือง นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุข จ.สงขลากล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคโควิดการฉีดวัคซีนโควิด เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรค ป้องกันการติดเชื้อ และหากติดเชื้อจะช่วยลดอาการรุนแรงของโรค ลดการเสียชีวิตได้ “มีมาตรการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ให้แก่ประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมร้อยละ 75 ของประชากรภายในเดือน พ.ย. เน้นกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ และแรงงานต่างด้าว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระดับบุคคลและภูมิคุ้มกันหมู่ สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือจุดนัดหมายในพื้นที่ตามการเรียกคิวของสถานบริการ ส่วนกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงควรประสานกับสถานบริการใกล้บ้านในการรับบริการฉีดวัคซีน” นพ.สงกรานต์กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวสามารถลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สงขลาวัคซีน หรือนายจ้างติดต่อประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ที่มีที่พักอาศัย เพื่อขอรับวัคซีนให้แรงงานต่างด้าว ใช้เลขพาสปอร์ต หรือเลขประจำตัว 13 หลักที่รัฐออกให้ และหากไม่มีหลักฐานใด ๆ สามารถติดต่อเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง นพ.สงกรานต์ กล่าวว่า เร่งการฉีดวัคซีน “รักใคร ห่วงใคร ชวนไปฉีดวัคซีน” โดยเช็คว่าใครบ้างยังไม่ได้ฉีดผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เด็ก 12 ปีขึ้นไปและกลุ่มทั่วไป ชวนไปฉีดวัคซีน โดยบอกว่า คนไม่ฉีด หากรับเชื้อจะเสี่ยงป่วยรุนแรงและเสียชีวิต มากกว่าคนทีฉีด และฉีดให้เร็วเพราะวัคซีนที่ดี คือวัคซีนที่เข้าสู่ร่างกายเร็ว เกิดภูมิคุ้มกันเร็ว “ความครอบคลุมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ของประชาชน จ.สงขลา ณ 26 พ.ย. ฉีดสะสมแล้ว 1,094,959 ราย ร้อยละ 73.62 จากกลุ่มเป้าหมายตามทะเบียนราษฎร์ 1,487,320 ราย เข็ม 1 ร้อยละ 73.62 เข็ม 2 ร้อยละ 59.89 และเข็ม 3 ร้อยละ 5.78”