เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ นำพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชน ร่วมสืบสานประเพณี ลอยประทีป 1,000 ดวง บูชาพระรัตนตรัยร้อยพันดวงใจ ร่วมสวดมนต์ภาวนา เป็นครั้งแรก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญจิตภาวนา และขอขมาพระแม่คงคา วันที่ 19 พ.ย.64 เวลา 19.19 น. ที่บริเวณสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดกลางพระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พระเทพปริยัตยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานจุดเทียน นำพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชน ร่วมงานสืบสานประเพณี ลอยประทีป 1,000 ดวง บูชาพระรัตนตรัยร้อยพันดวงใจ ร่วมสวดมนต์ภาวนา ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของ พระพุทธเจ้า เพื่อบูชาพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้าในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา และเพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา โดยบริเวณรอบสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีการวางโคมประทีปจากเทียน จำนวน 1,000 ดวง จากนั้นพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชน นั่งหน้าโคมประทีปจากเทียน ร่วมกันสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร, นั่งสมาธิ เจริญจิตภาวนา, จุดประทีปอธิษฐานจิต จากนั้นพิธีขอขมาพระแม่คงคา ร่วมกันลอยกระทง และลอยประทีป 1,000 ดวง ซึ่งทางวัด เตรียมกระทงเทียนนาคราช สีประจำวันเกิด 108 องค์ ที่ทำจากกะลามะพร้าว มีเทียนรูปพญานาค และธูปปักอยู่ภายในกะลามะพร้าว และกระทงเทียนดอกบัว สีประจำวันเกิด 1,000 ดวง ไว้สำหรับให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรม สวดมนต์ภาวนา และลอยประทีป เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีดั้งเดิมที่มีรูปแบบและเอกลักษณ์ให้คงอยู่ เพื่อเป็นการบอกกล่าวขอขมาแก่พระแม่คงคาตามประเพณีความเชื่อ ที่จะมีการล่วงเกินโดยการนำกระทงลงไปลอยในน้ำอาจทำให้น้ำสกปรก ทั้งยังได้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวอีกด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เน้นในเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคำนึงถึงมาตรการด้านความปลอดภัย โดยผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมทั้งเว้นระยะห่างตลอดเวลาที่อยู่ในงาน