เมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 กองบังคับการตำรวจรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.รฟ., ว่าที่ พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.4 บก.รฟ., พ.ต.ท.ประวิทย์ ว่องไว, พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.4 บก.รฟ. พ.ต.ท.สันติ สุทธิชัยสว.ส.รฟ.ฉะเชิงเทรา กก.4 บก.รฟ., ร่วมกันจับกุม 1.นายภราดร หรือก๊อตฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 2.นายจักรพงศ์ หรือเก๋ง (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางเหล็กรองรางรถไฟ น้ำหนักรวมประมาณ 200 กิโลกรัม โดยจับกุม บริเวณหน้าแขวงบำรุง ทางรถไฟฉะเชิงเทรา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจรถไฟ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยว่า เหล็กรองรางรถไฟที่เก็บไว้บริเวณหน้าแขวงบำรุงทางรถไฟฉะเชิงเทราได้หายไปหลายครั้ง จึงได้สั่งการให้พ.ต.ท.สันติ สุทธิชัย สว.ส.รฟ.ฉะเชิงเทรา กก.4 บก.รฟ. ออกสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดี โดยกระจายกำลังดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้กับบริเวณที่เก็บเหล็กรองรางรถไฟ ต่อมาวันที่ 9 พ.ย.64 เวลาประมาณ 01.20 น. คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามายังที่เกิดเหตุ เพื่อมาขโมยเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและเจ้าหน้าที่การรถไฟ จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน ได้พร้อมของกลางเหล็กรองรางรถไฟจำนวนดังกล่าว สอบถามนายภราดร หรือก๊อต ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.64 เวลาประมาณ 01.00 น. ได้มาลักเหล็กรองรางรถไฟกับนายพาส ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง จากที่เกิดเหตุนี้ จำนวน 50 กก. โดยได้นำเหล็กรองรางรถไฟไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ไม่ทราบชื่อ ตั้งอยู่ข้างวัดแห่งหนึ่ง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนกระทั่งวันที่ 9 พ.ย.64 จึงได้ชวน นายภราดรฯ นายจักรพงศ์ หรือเก๋ง (น้องชาย) มาลักเหล็กรองรางรถไฟอีก จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟฉะเชิงเทราและเจ้าหน้าที่การรถไฟ จึงได้จับกุมตัว และได้ประสานเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ชุดร่วมจับกุม นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต่อมาชุดจับกุมได้ร่วมกันขยายผลติดตามยึดเหล็กรองรางรถไฟคืนจากร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งในบริเวณ ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จว.ฉะเชิงเทรา น้ำหนักรวม 171 กิโลกรัม จากนายดวง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเป็นผู้ดูแลด้วยความยินยอม โดยจะดำเนินการขยายผลเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป