เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 64 ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา จำเลย ในความผิดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ จากกรณี 19 ม.ค. 64 นายไชย์พล วิภา จำเลย เข้าแย่งไมค์สื่อทีวีดิจิทัลช่อง 34 อมรินทร์ทีวี ซึ่งผู้สื่อข่าวช่องดังกล่าวพยายามชี้แจงว่าได้เข้ามาทำหน้าที่ตามปกติ หลังจากนั้นได้โผเข้าใส่ก่อนทุบหลัง 2 ครั้ง พร้อมกับผลักไหล่ ก่อนจะพยายามบีบคอและกระชากหน้ากากอนามัยออก ชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 309 วรรคแรก, 391 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษในความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ.มาตรา 90 จำคุก 2 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 5,000 บาท พิเคราะห์ผลการชันสูตรบาดแผลผู้เสียหายแล้วไม่ปรากฏอันตรายร้ายแรง และจำเลยได้ลุแก่โทษโดยนำเงินค่าเสียหายมาวางศาล จึงให้โอกาสแก่จำเลยโดยรอการลงโทษจำคุกมีกำหนด 1 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการ ตาม ป.อ. มาตรา 29, 30 ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอื่น ในคดีดังกล่าวยังไม่มีคำพิพากษา จึงยกคำขอในส่วนนี้ ด้าน นายนภัส ประณีตพลกรัง หรือฟ้า ที่ถูกร้าย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์บอกว่า ตนพอใจและเคารพการตัดสินของศาลจังหวัดมุกดาหาร ส่วนจะฟ้องร้อง นายไชย์พลฯ ต่อนั้นคงไม่ฟ้องแล้ว