วันที่ 28 ต.ค.2564 ที่ บช.ศ.พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบช.ศ./โฆษก บช.ศ กล่าวเปิดเผย กรณี บช.ศ.เสร็จสิ้นภารกิจจากการขับเคลื่อนงานสัมมนาตาม “โครงการสัมมนาผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าและผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565” ว่า พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ศ. (อดีต ผบช. รร.นรต. ) มีความยินดีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.อนุมัติให้จัดโครงการนี้ขึ้นและมอบความไว้วางใจให้ บช.ศ.เป็นหน่วยรับผิดชอบขับเคลื่อนการสัมมนาตลอดระยะเวลารวมทั้งสิ้น 3 วัน (ระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค. 2564) ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวว่า โครงการสัมมนาดังกล่าวนี้ได้จัดพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เกียรติเป็นประธาน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าและผู้บังคับการหรือเทียบเท่า มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบนโยบายและทิศทางการปฏิบัติงานให้นำไปพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพของหน่วยงาน เพื่อให้ผู้นำหน่วยได้รับทราบถึงนโยบายและทิศทางการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำหน่วยได้รายงานปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ทราบ เพื่อจะได้นำข้อมูลไปแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาองค์กรให้เกิดผลสัมฤทธิ์สู่ระดับมาตรฐานสากล โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา และ ผบ.ตร. ยังให้เกียรติในการบรรยายพิเศษแก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้นำหน่วยที่เข้าร่วมการสัมมนา ในหัวข้อ “ทิศทางตำรวจยุคใหม่” นอกจากนั้นยังมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร. พร้อมด้วยคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ให้เกียรติเป็นผู้บรรยายพิเศษหัวข้อต่าง ๆ ด้วย ซึ่ง ผบ.ตร.ได้กล่าว ทิ้งทายเน้นย้ำให้กับผู้ร่วมโครงการว่า “ขอให้วางเป้าหมาย ตั้งมั่น ตั้งใจทำอะไรกันสักคนละหนึ่งอย่าง แล้วทำให้สำเร็จ เพื่อนำไปสอนลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา และท่องคติพจน์ทำงานร่วมกันไว้เสมอแบบ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ” พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โฆษก บช.ศ.กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งของการสัมมนาครั้งนี้ได้แก่ การจัดสัมมนากลุ่มย่อย ซึ่งได้จัดขึ้นในวันสุดท้าย ( 27 ต.ค.2564 ) โดยผู้ร่วมสัมมนาจากแต่ละกลุ่มได้นำเสนอแนวทางการบริหารงานในด้านต่างๆ ได้แก่ 1)การป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดไปพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์, ยาเสพติด ,แหล่งอบายมุข การทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นต้น 2)การบริหารงานสายงานสอบสวนให้เกิดความสมดุลแบบยั่งยืน 3)แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการตำรวจ 4)การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งในทางการสืบสวนสอบสวนและการบริหารจัดการทางเทคโนโลยีเชิงรุก 5)แนวทางในการประชาสัมพันธ์เชิงรุก การให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อโต้ตอบเขาลวงและข้อมูลข่าวสารเชิงลบที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6)การสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้เกิดขึ้นกับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ 7)การบริหารจัดการด้านการข่าวเชิงรุก การจัดการชุมนุมสาธารณะ การสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โฆษก บช.ศ.กล่าวอีกว่า การสัมมนาในครั้งนี้ได้ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อยและมีการจัดการโดยยึดหลักการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) อย่างเคร่งครัด โดยด้าน ผู้เข้าร่วมการสัมมนาต่างให้ความร่วมมือในการรับฟังการบรรยายและในช่วงการสัมมนากลุ่มย่อยก็ร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางและหลากหลาย มีการนำเสนอองค์ความรู้ แนวความคิดในเชิงกลยุทธ์และแบ่งปันประสบการณ์เพื่อถ่ายทอดทักษะผู้บริหารและการเป็นผู้นำในยุคสมัยที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ นอกจากนั้น ยังได้เปิดให้มีการนำเสนอข้อมูลเพื่อส่งต่อสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์ไปยังผู้บริหารระดับสูงของ ตร. เพื่อพิจารณาการปรับยุทธศาสตร์การบริหารเชิงรุกเพื่อให้บรรลุผลในเป้าหมายแห่งการดูแลรักษาความปลอดภัยและการรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดแก่ประชาชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน