วันที่ 27 ต.ค.64 รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ในวันที่ 28 ต.ค.ที่จังหวัดขอนแก่น มีวาระน่าจับตามองคือ การเปลี่ยนหัวหน้าพรรค โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เตรียมประกาศลาออกจากตำแหน่ง เปิดโอกาสให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่แทน โดยก่อนหน้ามีชื่อนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้านที่ได้รับแรงเชียร์จากกลุ่ม ส.ส.ภาคอีสาน ให้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทน แต่แกนนำพรรคหลายคนมองว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคได้เข้ามามีตำแหน่งสำคัญในกรรมการบริหารพรรคแล้ว จึงเห็นว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ที่ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้เป็นอย่างดีทันเกมการเมืองฝ่ายตรงข้าม ถือว่ามีความเหมาะสม "ในการประชุมสามัญพรรคเพื่อไทย นอกจากจะมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรคแล้ว ยังจะมีการดึงคนในพรรคมาช่วยงานในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ที่ว่างลง 4 ตำแหน่งให้เข้ามาช่วยงาน ขณะเดียวกัน ในตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค จะมีการปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน โดยนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแคร์ จะเข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวแทน นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย โดยมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก แต่จะยังไม่มีการเปิดตัว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่แกนนำพรรคบางคนมองว่า ยังไม่ใช่ช่วงเวลา เพราะเปิดตัวเร็ว ไม่ว่าจะเป็นใคร จะถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีแน่นอน รอให้มีการยุบสภา เริ่มเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้วค่อยเปิดตัวมีความเหมาะสมมากกว่า เหมือนกับโมเดลที่เคยผลักดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ในเวลาเพียง 49 วัน" สำหรับการประชุมใหญ่สามัญพรรคเพื่อไทย นอกจากจะมีวาระการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคแล้ว ที่ประชุมยังจะแจ้งให้สมาชิกในพรรครับทราบถึงการเปลี่ยน ตัวอักษรและธีมโลโก้ของพรรค ที่เปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรสีขาว พื้นหลังสีแดง ให้สมาชิกพรรครับทราบด้วย ขณะที่ นพ.ชลน่าน ได้ตอบคำถาม ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ตอนหนึ่งเมื่อถูกถาม หากได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะปฏิเสธหรือไม่ว่า ถ้าได้รับโอกาส พร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อพรรค เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เมื่อถามอีกว่าถ้าได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรเป็นอย่างแรก นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นคำถามที่หวังผลมาก พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง มีประชาชนเป็นเจ้าของพรรค แต่สิ่งที่เพื่อไทยควรทำคือ จุดเชื่อมโยงของคนในอดีต ปัจจุบัน และคนรุ่นใหม่ เอาวิธีคิด การทำงาน มาสร้างบ้านสร้างเมือง มาทำงานให้พรรค ซึ่งคำตอบคือ ถ้ามีโอกาสได้ไปทำนะครับ