กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย (ลำไยสด) ยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาชาวสวนลำไย ไร่ละ 2 พันบาท ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย (ลำไยสด) นำโดยนายสุกิจ ตุ่นวงศ์ ประธานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.ล.) ลี้ พร้อมด้วย ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย จากพื้นที่ 8 อำเภอในจังหวัดลำพูน รวมทั้งสิ้น กว่า 50 ราย ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาชาวสวนลำไย ไร่ละ 2 พันบาท ไม่เกิน 25 ไร่ หรือ 5 หมื่นบาทต่อครัวเรือน จากสภาพอากาศแปรปรวน และวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด สืบเนื่องจากตามที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2563 อนุมัติโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี พ.ศ.2563 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสภาพอากาศ และการระบาดของไวรัสโควิด -19 ทำให้ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าลำไย(ลำไยสด)จากประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ ขณะที่ปริมาณผลผลิตล้นตลาด รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ได้ขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 ก.ย. 63 จำนวน 2 แสนครัวเรือน ในอัตราไร่ละ 2 พันบาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ หรือ 5 หมื่นบาทต่อครัวเรือน ภายใต้กรอบวงเงิน 3,440 ล้านบาทในปีที่ผ่านมานั้น แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทั้งยังส่งผลให้ราคาลำไยตกต่ำ ขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะการส่งออกลำไยไปต่างประเทศ ทางเกษตรกรจึงประสบปัญหาขาดทุน มีภาระหนี้สิน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และไม่มีเงินทุนที่จะเป็นต้นทุนในการผลิตลำไยคุณภาพ ในปี 2565 ดังนั้นทางกลุ่มเกษตรกร จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการจัดสรรเงินเยียวยา สำหรับชาวสวนลำไย ไร่ละ 2000 บาท เหมือนปีที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความความเดือดร้อน และเพื่อใช้เป็นทุนในการดูแล ผลผลิตลำไย ลำไยคุณภาพ ในปี 2565 จึงขอให้รัฐบาลให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากนั้นกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย (ลำไยสด) ได้ร่วมยื่นหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน โดยมี นายชาตรี กิติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน เป็นผู้แทนในการรับมอบ มี นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับมอบหนังสือฯ พร้อมทั้งร่วมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยจังหวัดลำพูน ได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว แล้ว และได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้มีการจัดประชุมในด้านผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะ ด้านผลผลิตลำไย อย่างต่อเนื่อง เพื่อการแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้จะได้นำหนังสือฉบับดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอน ต่อไป
ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย (ลำไยสด) นำโดยนายสุกิจ ตุ่นวงศ์ ประธานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.ล.) ลี้ พร้อมด้วย ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย จากพื้นที่ 8 อำเภอในจังหวัดลำพูน รวมทั้งสิ้น กว่า 50 ราย ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาชาวสวนลำไย ไร่ละ 2 พันบาท ไม่เกิน 25 ไร่ หรือ 5 หมื่นบาทต่อครัวเรือน จากสภาพอากาศแปรปรวน และวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด สืบเนื่องจากตามที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2563 อนุมัติโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี พ.ศ.2563 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสภาพอากาศ และการระบาดของไวรัสโควิด -19 ทำให้ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าลำไย(ลำไยสด)จากประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ ขณะที่ปริมาณผลผลิตล้นตลาด รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ได้ขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 ก.ย. 63 จำนวน 2 แสนครัวเรือน ในอัตราไร่ละ 2 พันบาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ หรือ 5 หมื่นบาทต่อครัวเรือน ภายใต้กรอบวงเงิน 3,440 ล้านบาทในปีที่ผ่านมานั้น แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทั้งยังส่งผลให้ราคาลำไยตกต่ำ ขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะการส่งออกลำไยไปต่างประเทศ ทางเกษตรกรจึงประสบปัญหาขาดทุน มีภาระหนี้สิน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และไม่มีเงินทุนที่จะเป็นต้นทุนในการผลิตลำไยคุณภาพ ในปี 2565 ดังนั้นทางกลุ่มเกษตรกร จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการจัดสรรเงินเยียวยา สำหรับชาวสวนลำไย ไร่ละ 2000 บาท เหมือนปีที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความความเดือดร้อน และเพื่อใช้เป็นทุนในการดูแล ผลผลิตลำไย ลำไยคุณภาพ ในปี 2565 จึงขอให้รัฐบาลให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากนั้นกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย (ลำไยสด) ได้ร่วมยื่นหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน โดยมี นายชาตรี กิติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน เป็นผู้แทนในการรับมอบ มี นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับมอบหนังสือฯ พร้อมทั้งร่วมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยจังหวัดลำพูน ได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว แล้ว และได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้มีการจัดประชุมในด้านผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะ ด้านผลผลิตลำไย อย่างต่อเนื่อง เพื่อการแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้จะได้นำหนังสือฉบับดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอน ต่อไป