ตร.อุดรธานีล่าโจรใจบาปย่องงัดตู้บริจาคญาติโยมบริจาคไว้เป็นค่าน้ำค่าไฟวัดดังกลางเมืองอุดรธานี วงจรปิดเผยภาพชัดเป็นชายคืนเดียวเข้ามาถึง 3 ครั้งงัดตู้บริจาค 200 บาทก็ยังเอา วันนี้ (26 ต.ค.64) พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.( สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายลักทรัพย์ในกุฏิเจ้าอาวาสวัดโพธิวราราม ถนนโพศรี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.สมพร จันทร์ลอย รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุเป็นกุฎิปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบพระครูโพธิวรานุรักษ์ อาภาธโร อายุ 81ปี เจ้าอาวาสวัด นำเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจที่เกิดเหตุ และให้การว่า ปกติหลวงปู่จะจำวัดเข้านอนเวลา 20.30 น. แต่เวลาประมาณ 21.00 น. ได้ยินเสียงหมาเห่า จึงลุกขึ้นมาส่องดู แต่ไม่เห็นอะไร กระทั่งกลางดึกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงสุนัขเห่าอีก แต่ไม่ได้ส่องดู เวลา 04.00 น. ตื่นขึ้นมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ ก็พบตู้บริจาคแบบไม้ ถูกเปิดฝาออกเพราะไม่ได้ล็อกกุญแจ ซึ่งเป็นเงินที่ญาติโยมมาทำบุญบริจาคเป็นค่าน้ำค่าไฟ ประมาณ 200-300 บาทหายไป จึงให้ไวยาวัจกรมาวัดแจ้งตำรวจมาทำการตรวจสอบ ”ฝากบอกถึงโจร อย่าทำอีกเลย เพราะมันไม่ดี เพราะว่าเป็นเงินที่เขาบริจาคมาเป็นค่าน้ำค่าไฟของวัด” นายบุบผา คุณมี อายุ 79 ปี ไวยาวัจกรวัด เล่าว่า โดยปกติวัดจะปิดประตูรั้ววัดทั้ง 4 ด้าน สามทุ่มคืนวานี้หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 -35 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ สวมหมวกแก๊ป ใส่แมสสีขาว เพื่อปิดบังใบหน้า ไม่มียานพาหนะ เดินเข้ามาปิดไฟที่โรงจอดถ ก่อนเดินวนเวียนอยู่แถวโรงจอดรถข้างกุฏิเจ้าอาวาส แล้วสอดส่องดูรถแต่ละคันว่ามีทรัพย์สินที่มีค่าอะไรหรือไม่ พอดีมีพระตื่นขึ้นมา คนร้ายจึงวิ่งหลบหนีออกไป กระทั่งเวลา 00.43 น. พบคนร้ายคนเดิมปีนรั้วเหล็กกุฏิเจ้าอาวาสอีก แต่ครั้งนี้คนร้ายเดินตรงเข้าไปที่ตู้รับบริจาค บริเวณหน้ากุฏิเหมือนกับจับจ้องไว้แล้ว ก่อนเปิดเอาเงินในตู้บริจาคแล้วเดินหลบหนีไปอย่างใจเย็น ไวยาวัจกรวัด ฝากถึงโจรทั้งหลาย หาอยู่หากินก็ให้มันชอบธรรม เพราะมันเป็นเงินบริจาคของทางวัด ชาวบ้านนำมาถวายให้วัด เพราะเป็นที่พึ่งพาอาศัยทางใจ และที่พึ่งในวาระสุดท้ายของชีวิตของชาวบ้าน อย่ามาทำลายศาสนา ตายไปก็มาเผาที่วัด ไม่มีที่ไหนกล้าเผาคนตายนอกจากวัด ให้มีจิตใจเป็นคน และเป็นบาป สองเท่า อย่ามาหากินในวัดแบบนี้ เพราะทรัพย์สินในวัดเป็นของทุกคนในชุมชน” ขณะที่ตร.หลังตรวจที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในชุมชน หรือละแวกใกล้วัด โดยปีนรั้ววัดเข้ามาลักเงินในตู้บริจาค ซึ่งจะได้ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี สืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป/