"ฝนถล่มเมืองคอน"ทำน้ำท่วม รร.-บ้านเรือน สวนยางพารา ส่วน"โคราช"ประกาศเตือน 11 อำเภอ เฝ้าระวังสูงสุด3 เขื่อนใหญ่ระบายลงลำน้ำมูล ขณะที่"พิมาย"ขึ้นธงแดง เตือนอาจมีน้ำท่วมใน 6-30 ชม.ข้างหน้า หลังน้ำลำเชียงไกร-ลำมูลเพิ่มระดับรวดเร็ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเช้า ว่า ส่งผลให้ปริมาณในลำคลองสายต่างๆ เอ่อล้นแล้วหลายสาย โดยเฉพาะพื้นที่ ต.นาไม้ไผ่ อ.ทุ่งสง เกิดน้ำท่วมไหลหลากถนนในหมู่บ้าน ส่วนบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วจำนวน 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 3 หมู่ 5 และหมู่ 11 ต.นาไม้ไผ่ โดยเฉพาะที่บ้าน 141/1 หมู่ 3 ต.นาไม้ไผ่ ถูกน้ำท่วม ญาติๆ ต้องเร่งขนย้ายผู้ป่วยติดตียงไปในที่ปลอดภัย นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมสวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่แล้วจำนวนหลายสิบไร่ ทำให้ชาวสวนไม่สามารถกรีดยางพาราได้ตามปกติ ส่วนที่โรงเรียนวัดทุ่งส้าน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งส้าน ถูกน้ำไหลหลากเข้าท่วมห้องเรียนแล้วเช่นกัน ครูและชาวบ้าน ต้องเร่งช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การเรียน เครื่องไฟฟ้าหนีน้ำท่วมขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหาย ล่าสุด นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายอำเภอทุ่งสง ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว วันเดียวกัน ที่โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา (อ.ส.ช นม.) สถานศึกษาเอกชนชื่อดังในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อม นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา ภราดา ดร.สอาด วงศาเจริญภักดี ผู้อำนวยการ อ.ส.ช นายสายัญ โกลาตี นายกสมาคมศิษย์เก่า อ.ส.ช นายลบพาล ธีระบุตร นายกสมาคมผู้ปกครองและครู อ.ส.ช บุคลากรทางการศึกษาและศิษย์เก่าร่วมกิจกรรมล้างทำความสะอาดพื้นที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำในลำตะคองเอ่อล้นตลิ่งไหลทะลักท่วมเต็มพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-80 เซนติเมตร ซ้ำรอยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2553 หรือ 11 ปีที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 กองบิน 1 และงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทน.นครราชสีมา ให้การสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ทำความสะอาด เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนสภาวะปกติ พร้อมเตรียมรับการเปิดการเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ให้มีความสะอาดปลอดภัย นายวิเชียร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ได้ลดระดับยกเว้นพื้นที่ติดลำมูล ต.สัมฤทธิ์ ต.กระเบื้องใหญ่ ต.ชีวาน ต.กระชอน อ.พิมาย ต.สายออ อ.โนนไทย และบางพื้นที่ อ.โนนสูง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีประมาณ 2 พันหลังคาเรือนได้รับผลกระทบน้ำท่วมอยู่ ส่วนในเขตเศรษฐกิจ ทน.นครราชสีมา และตำบลรอบนอก อ.เมือง กลับคืนสู่สภาวะปกติ ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้แจกจ่ายถุงยังชีพพร้อมบิ๊กคลีนนิ่งและเร่งสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือ เยียวยาในเขตชุมชนและพื้นที่การเกษตรต่อไป ทั้งนี้ แม้นภาพรวมดีขึ้น แต่เขื่อนลำตะคอง ได้เริ่มระบายน้ำเมื่อ 07.00 น. ที่ผ่านมา มวลน้ำอาจส่งกระทบกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งลำตะคอง และยังมีเขื่อนลำแชะ เขื่อนลำมูลบน อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรได้ระบายน้ำเช่นกัน จึงแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งลำน้ำมูล เตรียมขนย้ายสิ่งของและรับสถานการณ์คาดการณ์จะมีพายุลูกใหม่พาดผ่านวันที่ 27-28 ต.ค.นี้ จึงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ลุ่มต่ำอาจเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกโดยให้เฝ้าระวังสูงสุด จนกว่าจะประกาศคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลพิมาย จ.นครราชสีมา ได้ปักธงสีแดงแจ้งเตือนระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอาจเกิดน้ำท่วมภายใน 6-30 ชั่วโมงข้างหน้า ขอให้ประชาชนอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของและเคลื่อนย้ายบุคคลไปอยู่ในที่ปลอดภัย และให้ติดตามข่าวสารประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ มวลน้ำบางส่วนของลำมูลและลำสะแทดได้เริ่มเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มต่ำใน ต.กระเบื้องใหญ่ ต.สัมฤทธิ์ ต.ในเมือง และ ต.ชีวาน อ.พิมาย เป็นครั้งที่ 2 โดยคาดการณ์ว่าระดับน้ำน่าจะท่วมสูงมากกว่าครั้งแรก เนื่องจากยังคงมีน้ำที่เหลือจากการท่วมขังครั้งก่อนหลงเหลืออยู่ในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่สามารถระบายออกไปได้ ดังนั้น เมื่อมวลน้ำคงเหลือ มารวมกับน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลเข้ามาเพิ่มจากลำเชียงไกร และลำตะคอง ไปลงลำมูล จึงทำให้สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.พิมาย น่าเป็นห่วง