เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 ต.ค. 2564 ที่พนังกั้นลำน้ำพอง พื้นที่บ้านท่าโพธิ์ ม.4 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอน้ำพอง สนธิกำลังร่วมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบจุดที่พนังกั้นน้ำพองทรุดตัวเป็นทางยาวประมาณ 40 เมตร โดยมวลน้ำได้กัดเซาะริมตลิ่งสองฟากฝั่งแม่น้ำพองอย่างต่อเนื่องจนทำให้ต้นไม้โค่นล้มลงมาในหลายจุด นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า พนังดินที่เป็นคันคูกั้นลำน้ำพอง ขณะนี้เริ่มทรุดตัวเป็นทางยาว เกรงว่าพนังจะขาด น้ำจะทะลักท่วมในพื้นที่ ถ้าน้ำท่วมประชาชนในหลายหมู่บ้าน หลายตำบลจะเดือดร้อนอย่างหนักเพราะพื้นที่การเกษตรและนาข้าวที่กำลังออกรวมและใกล้จะได้เก็บเกี่ยว จะถูกน้ำท่วม เสียหายนับหมื่นไร่ ืทำให้เช้าวันนี้จึงประสานการทำงานร่วมกันกับ นายอำเภอน้ำพอง และอบต.ท่ากระเสริม นำทีมช่างลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พนังทรุดตัว ก็พบว่า มีความเสียหายของพนังจริง จึงมีคำสั่งห้ามรถยนต์ขนาดใหญ่สัญจรผ่านจุดดังกล่าว เพราะจะเป็นอันตรายได้ "เมื่อทีมช่างตรวจสอบแล้ว ได้ลงความเห็นว่าจะทำการซ่อมแซมด้วยการนำไม้ยูคาลิปตัสมาตอกเป็นเสาเข็มที่พนังที่ทรุดตัว จากนั้นจะใช้รถแม็กโครมาขุดดินเสริมถนนให้แข็งแรง ซึ่งน่าจะช่วยได้ ส่วนจุดที่ชลประทานมาสูบน้ำออกนั้นก็ได้มีการนำบิ๊กแบ็คมาเสริมความแข็งแรง ส่วนจุดที่สะพานห้วยอีตื๋อนั้น ขณะนี้ได้นำรถแม็กโครมาตอกไม้ทำเสากั้นและเอาดินถมเพื่อทำพนังกั้นน้ำพองไม่ให้ไหลลงห้วยส้มกุ้ง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นได้ดี โดยร่วมกันซ่อมแซมทั้งหมด 3 จุดเชื่อว่าจะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้พอสมควร" ขณะที่นายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า น้ำที่กำลังไหลเอ่อเข้ามาในพื้นที่นั้นเป็นน้ำที่มีการระบายออกจากเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งมีการระบายเพิ่มขึ้นทุกวัน ในขณะที่ทางจังหวัดได้มีการแจ้งนายอำเภอและผู้นำชุมชนในพื้นที่ที่น้ำไหลผ่าน เพื่อเตรียมพร้อมรับมวลน้ำและน้ำท่วม ซึ่งอำเภอน้ำพองได้ประสานกับผู้นำชุมชนและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาอย่างต่อเนื่อง จนมีการช่วยเหลือประชาชนได้ทัน ซึ่งน้ำยังไม่เข้าท่วมบ้านประชาชน แต่เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก