ตั้งใจอย่างแน่วแน่จะยืนเคียงข้างทุกคนจนกว่าสถานการณ์วิกฤตโควิด - 19 จะดีขึ้น ด้วยการจัดส่งกำลังใจไปในรูปแบบของอาหารผ่านรถพุ่มพวง หรือ รถกับข้าวบอยเจี๊ยบเพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงทุกชุมชนมากที่สุด ด้วยความตั้งใจเต็มร้อยของคู่รักนักสู้บอย อนุวัฒน์ & เจี๊ยบ พิจิตตรา ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกคนเสมอทุกยามมีสุขร่วมสุขมีทุกข์ร่วมต้าน เมื่อใดที่ทุกข์กระจายไปเป็นวงกว้างเราก็พร้อมอยู่เคียงข้างทุกคน
ซึ่งการทำความดีของทั้งบอย & เจี๊ยบ ก็ย่อมได้ดีล่าสุดทั้งคู่ได้เป็นตัวแทนของคนที่ทำความดีให้สังคมเพื่อให้ทุกคนได้เห็นและชื่นชมในการทำดีนี้เป็นที่กระจายออกไป ทางเซ็นทรัลฯจึงได้ ขอเชิญให้ทั้งคู่ไปเป็นหนึ่งในตัวแทนการทำดีในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ผ่านรถกับข้าวบอยเจี๊ยบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ตัวแทนดอกไม้ แห่งกำลังใจ โดยโฆษณาตัวนี้นำไปออกในทุกช่องทางของ เซ็นทรัลฯ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนมาทำดี และมีชีวิตที่เบิกบาน
งานนี้ บอย&เจี๊ยบ ได้เปิดใจถึงเรื่องการได้มาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการกระตุ้นการทำความดี พร้อมเล่าถึงความตั้งใจที่จัดทำรถกับข้าวบอยเจี๊ยบขึ้นมา ควักทุนส่วนตัวไปนับล้านบาท
“เราทั้งคู่ต้องขอขอบคุณทางเซ็นทรัลฯมากๆนะคะ ที่เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับรถกับข้าวบอยเจี๊ยบ ของเราที่เราตั้งใจทำขึ้นมา ซึ่งเราก็คือกลุ่มคนเล็กๆเพียงเท่านั้น แต่พอได้มาร่วมในโครงการดีๆแบบนี้รู้สึกภูมิใจมากๆเลยค่ะ และในส่วนของรถพุ่มพวงต้องขอเล่าย้อนจุดเริ่มต้นทำรถพุ่มพวง จากประสบการณ์ช่วยโควิดระลอกแรก ที่ทำข้าวกล่อง แล้วให้ประชาชนเดินทางมารับที่ร้านอาหารของทั้งคู่ แต่พบว่าเป็นการกระจายไม่ทั่วถึงผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ บางคนลำบากเกินกว่าจะเดินทางมารับเลยทำให้เรานึกถึงรถกับข้าวในวัยเด็ก ก็เลยคิดว่าวิธีนี้แหละน่าจะเวิร์คกว่า ได้ช่วยเหลือหลายทาง ทั้งการอุดหนุนสินค้า สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ร้านของชำ ร้านค้าเล็กๆ ตลอดจนผู้ได้รับอย่างประชาชนผู้เดือดร้อน
เริ่มแรกคือทำจากเงินเก็บที่พอจะมาอยู่บ้าง ตอนแรกคุยกันว่าเอาเงินเก็บก้อนนี้มาทำ แต่ถ้ามันหมดเมื่อไหร่ก็คือหมดนะ แต่พอเริ่มทำไป มันยังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะ รู้เลยว่าเมืองไทยเรามีชุมชนเล็กๆ น้อยๆ อีกเพียบ เลยรู้สึกว่าหยุดไม่ได้ แต่โชคดีว่านอกจากทุนส่วนตัว ก็มีประชาชนทั่วไปที่เห็นเราทำแล้วอยากร่วมช่วย แต่เราไม่รับบริจาคเงิน เราก็จะขอให้ส่งมาเป็นสิ่งของแทน รวมถึงเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิงด้วย ที่ร่วมช่วยอยู่ตลอด อิ่มใจกับสิ่งที่ได้ทำ หลายครั้งเห็นคลิปจากทีมงานที่ไปลงพื้นที่ก็ถึงกับน้ำตาไหล เมื่อชาวบ้านทราบว่ารถพุ่มพวงของเราจะไป ก็มาตั้งแถวรอกันเป็นระเบียบ มีอาสาสมัครในชุมชนมาช่วยเหลือด้วย ดีใจที่สิ่งที่เราคิดกันมันช่วยเหลือคนได้จริงๆ ตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น”
ซึ่งการทำความดีของทั้งบอย & เจี๊ยบ ก็ย่อมได้ดีล่าสุดทั้งคู่ได้เป็นตัวแทนของคนที่ทำความดีให้สังคมเพื่อให้ทุกคนได้เห็นและชื่นชมในการทำดีนี้เป็นที่กระจายออกไป ทางเซ็นทรัลฯจึงได้ ขอเชิญให้ทั้งคู่ไปเป็นหนึ่งในตัวแทนการทำดีในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ผ่านรถกับข้าวบอยเจี๊ยบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ตัวแทนดอกไม้ แห่งกำลังใจ โดยโฆษณาตัวนี้นำไปออกในทุกช่องทางของ เซ็นทรัลฯ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนมาทำดี และมีชีวิตที่เบิกบาน
งานนี้ บอย&เจี๊ยบ ได้เปิดใจถึงเรื่องการได้มาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการกระตุ้นการทำความดี พร้อมเล่าถึงความตั้งใจที่จัดทำรถกับข้าวบอยเจี๊ยบขึ้นมา ควักทุนส่วนตัวไปนับล้านบาท
“เราทั้งคู่ต้องขอขอบคุณทางเซ็นทรัลฯมากๆนะคะ ที่เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับรถกับข้าวบอยเจี๊ยบ ของเราที่เราตั้งใจทำขึ้นมา ซึ่งเราก็คือกลุ่มคนเล็กๆเพียงเท่านั้น แต่พอได้มาร่วมในโครงการดีๆแบบนี้รู้สึกภูมิใจมากๆเลยค่ะ และในส่วนของรถพุ่มพวงต้องขอเล่าย้อนจุดเริ่มต้นทำรถพุ่มพวง จากประสบการณ์ช่วยโควิดระลอกแรก ที่ทำข้าวกล่อง แล้วให้ประชาชนเดินทางมารับที่ร้านอาหารของทั้งคู่ แต่พบว่าเป็นการกระจายไม่ทั่วถึงผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ บางคนลำบากเกินกว่าจะเดินทางมารับเลยทำให้เรานึกถึงรถกับข้าวในวัยเด็ก ก็เลยคิดว่าวิธีนี้แหละน่าจะเวิร์คกว่า ได้ช่วยเหลือหลายทาง ทั้งการอุดหนุนสินค้า สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ร้านของชำ ร้านค้าเล็กๆ ตลอดจนผู้ได้รับอย่างประชาชนผู้เดือดร้อน
เริ่มแรกคือทำจากเงินเก็บที่พอจะมาอยู่บ้าง ตอนแรกคุยกันว่าเอาเงินเก็บก้อนนี้มาทำ แต่ถ้ามันหมดเมื่อไหร่ก็คือหมดนะ แต่พอเริ่มทำไป มันยังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะ รู้เลยว่าเมืองไทยเรามีชุมชนเล็กๆ น้อยๆ อีกเพียบ เลยรู้สึกว่าหยุดไม่ได้ แต่โชคดีว่านอกจากทุนส่วนตัว ก็มีประชาชนทั่วไปที่เห็นเราทำแล้วอยากร่วมช่วย แต่เราไม่รับบริจาคเงิน เราก็จะขอให้ส่งมาเป็นสิ่งของแทน รวมถึงเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิงด้วย ที่ร่วมช่วยอยู่ตลอด อิ่มใจกับสิ่งที่ได้ทำ หลายครั้งเห็นคลิปจากทีมงานที่ไปลงพื้นที่ก็ถึงกับน้ำตาไหล เมื่อชาวบ้านทราบว่ารถพุ่มพวงของเราจะไป ก็มาตั้งแถวรอกันเป็นระเบียบ มีอาสาสมัครในชุมชนมาช่วยเหลือด้วย ดีใจที่สิ่งที่เราคิดกันมันช่วยเหลือคนได้จริงๆ ตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น”