ตร.อุดรธานี ตามจับคนร้ายได้แล้ว หลังถือไขควงแทงฝรั่งชาวแคนนาดา กลางเมืองอุดรธานี สารภาพเพราะพิษโควิดเปิดร้านขายอาหารตามสั่งขาดทุน แถมต้องหาเงินเลี้ยงลูกอีก 4 คน และค่าใช้จ่ายต่างๆ เผยประวัติเคยติดคุกมาแล้ว วันที่ 23 ต.ค.64 เวลา 14.45 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าว จับนายนาย แถวโพธิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 545 หมู่ 7 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาทำร้ายและชิงทรัพย์ชาวต่างชาติ พร้อมของกลางโทรศัพท์ยี่ห้อ หัวเหว่ย 1 เครื่อง รองเท้าผ้าใบสีดำ ยี่ห้อไนกี้ ข้างซ้าย 1 ข้าง หมวกแก็ปสีดำ หมวกกันน็อคสีดำ-ชมพู ด้ามไขควง กระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขพย 383 อุดรธานี โดยกล่าวหาว่า " ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้ยานพาหนะ,บุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ " เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 14.33 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2564 ร.ต.อ.นราศักดิ์ นนทะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี และ พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายเรฌอง เลเวค อายุ 60 ปี ชาวแคนาดา อยู่บ้านเลขที่ 605/21 ซอยร่วมเย็นพัฒนา ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ผ่านล่ามว่า โดนคนร้ายบุกชิงทรัพย์ภายในบ้าน โดยตนเคยรับราชการทหาร หลังเกษียณได้แต่งงานกับนางกมลทิพย์ เลเวค อายุ 42 ปี ชาวอุดรธานี ซึ่งมีอาชีพขายสินค้าออนไลน์ และมาซื้อบ้านทาวน์โฮมอยู่กับภรรยาที่ จ.อุดรธานี ก่อนเกิดเหตุภรรยาตนออกไปส่งสินค้า และใส่กุญแจประตูรั้วไว้ ส่วนตนกำลังนอนดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก โดยเปิดผ้าม่านไว้ จากนั้นเวลา 12.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อคสีดำ-ชมพู สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงยีนขาสั้น รองท้าผ้าใบสีดำ และสวมแมสก์ ถือไขควงบุกรุกเข้ามาในบ้านและข่มขู่ให้ส่งเงินให้ แต่ตนไม่ยอม คนร้ายใช้ไขควงแทงที่หลังตน จึงได้ต่อสู้กับคนร้าย ขณะต่อสู้กันหมวกกันน๊อคคนร้ายหลุดออก ทำให้เห็นใบหน้า คนร้ายได้บีบคอตนจนได้รับบาดเจ็บ และชิงเอาโทรศัพท์หัวเหว่ยวิ่งหลบหนีไป ซึ่งขณะหลบหนีคนร้ายได้ทำรองเท้า 1 ข้าง หมวกแก๊ป และด้ามไขควงตกในที่เกิดเหตุ เมื่อภรรยากลับมา จึงเล่าให้ฟังและมาแจ้งตำรวจ โดย พล.ต.ต.พิษณุ กล่าวต่อว่า หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน และบริเวณใกล้เคียง พบคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40-50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขพย 383 อุดรธานี มาจอดใกล้หน้าบ้าน แล้วปีนรั้วบุกเข้าไปในบ้าน และจากการสืบสวนทว่าคนร้ายคือนายนาย แถวโพธิ์ จึงออกติดตามจับกุมได้ที่บ้านเช่า ในหมู่บ้านเดอะไนท์ ถนนประชาสันติ เขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมของกลางโทรศัพท์หัวเหว่ย 1 เครื่องรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จากการสอบสวนนายนาย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุบุกชิงทรัพย์บ้านทาวน์โฮมของฝรั่งจริง โดยตนขายอาหารตามสั่ง เลี้ยงลูก 4 คน แต่ขายไม่ดี ไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งติดค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถจักยานยนต์ จึงไปยืมรถจักรยานยนต์เพื่อนขี่ไปทวงเงินที่เพื่อนยืม 500 บาท แต่ไม่พบเพื่อน จึงตนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปทางบ้านฝรั่ง พบฝรั่งแก่ๆ นั่งอยู่ในห้องรับแขกชั้นล่าง จึงวนรถดู 2-3 รอบ แล้วจอดคิดว่าฝรั่งแก่อยู่บ้านคนเดียว จึงตัดสินใจเปิดเบาะรถเอาไขควงเข้าไปชิงทรัพย์ แต่ปรากฎว่าฝรั่งฮึดสู้จึงใช้ไขควงแทงด้านหลังหลายครั้ง ขึ้นค่อมบีบคอใช้ไขควงจี้ ฝรั่งบอกว่าไม่มีเงิน เพราะเงินอยู่กับเมีย ตนจึงเอาโทรศัพท์มือถือแทน แล้ววิ่งออกมาโดยตนทำด้ามไขควง หมวกแก็ป รองเท้า 1 ข้าง ตกไว้ที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนรอบเมือง เอาเสื้อ และรองเท้าผ้าใบอีกข้างที่ไปทิ้งขยะ แล้วกลับมาบ้านพัก กระทั่งมาถูกตำรวจจับ “ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เพราะอยากได้แค่เงินไปใช้หนี้และใช้จ่ายในครอบครัวเท่านั้น ตนเสียใจ และขอโทษ” ส่วน นางกมลทิพย์ เรเวค อายุ 42 ปี ภรรยานายนายเรฌอง เลเวค กล่าวว่า ขณะส่งสินค้า สามีได้ส่งข้อความมาบอกว่า มีคนบุกเข้ามาชิงทรัพย์ในบ้าน จึงรีบกลับมาบ้าน พบตามร่างกายสามี พบรอยเขียวช้ำบริเวณแผ่นหลัง หลายจุด บริเวณลำคอแดง ครั้งแรกที่โจรเข้ามา สามีคิดว่าคนเข้ามาล้อเล่น แต่พอโดนบีบคอจนหายใจไม่ออก จึงรู้ว่าเรื่องจริง จึงพลิกตัวสู้ เพราะตัวใหญ่และเป็นทหารมาก่อน โจรสู้ไม่ได้จึงวิ่งออกจากบ้านไป สามีบอกว่าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ อยู่เมืองไทยมา 5 ปี คิดว่าคนไทยเป็นคนใจดี หลังเกิดเหตุก็อยู่อย่างวาดระแวง แต่สามีดีใจที่ตำรวจไทยจับโจรได้รวดเร็ว ขณะที่ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ ต้องปกป้องสิทธิ คดีนี้ดูเหมือนจะเป็นเหตุฉกรรจ์ เพราะนั่งอยู่ในบ้านดีๆ ทำไมมีคนร้ายเดินเข้าไปในบ้านประทุษร้ายชีวิตและต่อทรัพย์ในเวลากลางวัน หลังได้รับแจ้ง ตำรวจจึงรีบออกไปสืบสวน และจับกุมคนร้ายได้ 24 ชม.แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์ และบุกรุก” ซึ่งผุ้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้ง 2 ข้อหา แต่ปฏิเสธไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ สำหรับนายนาย แถวโพธิ์ ผู้ต้องหา เคยถูกตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับข้อหาลักทรัพย์ เมื่อพ้นโทษออกมาไปอยู่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่ไปก่อเหตุลักทรัพย์ และถูกจับติดคุกอีก พอพ้นโทษได้กลับมาอยู่ จ.อุดรธานี และก่อเหตุซ้ำอีกแต่สุดท้ายกไม่รอดถูกตร.อุดรธานีตามจับตัวจนได้