รัฐบาลมุ่งกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ออกหลักเกณฑ์โอนภารกิจอนามัย - รพ.สต. ส่งเสริมประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพขั้นปฐมภูมิให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ วันที่ 23 ต.ค. 64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นให้เกิดการกระจายอำนาจของหน่วยต่างๆสู่ท้องถิ่น เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน และให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และรพ.สต. สามารถตอบสนองความต้องการทางด้านสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้กำหนดแนวทางการถ่ายโอนภารกิจด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการกระจายอำนาจและถ่ายโอนภารกิจที่ล่าช้าอันเนื่องมาจากความไม่ชัดเจนของหลักเกณฑ์ ซึ่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า  ตั้งแต่ปี 2551-63 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต. รวมแล้วเพียง 65 แห่ง จากจำนวนทั้งสิ้น 9,787 แห่งทั่วประเทศ น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สาระสำคัญของหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต. ได้กำหนดแนวปฏิบัติ ตั้งแต่การดำเนินการก่อนการถ่ายโอน การเตรียมความพร้อมด้านการบริหารภารกิจ งบประมาณ  บุคลากร  กลไกและกระบวนการถ่ายโอนภารกิจ โดยมีคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ (กสพ.) กำกับดูแล มีการกำหนดตัวชี้วัดหลักเกณฑ์และขั้นตอนการประเมินความพร้อมที่ชัดเจน “รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดทิศทางการให้บริการของหน่วยภายใต้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างหลักประกันความต่อเนื่องของบริการ รวมถึงพัฒนาคุณภาพของการบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง”น.ส.ไตรศุลี กล่าว