ยอดรักษาตัวกว่าแสน อาการหนัก 2.6 พันราย โคม่ากว่า 600 ภาคใต้เสียชีวิตสูงสุด พบพื้นที่ชายแดนใต้และ 6 จว.แนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้ง นครศรีฯ ตาก ระยอง จันท์ เชียงใหม่ และขอนแก่น ขณะเจอลอบเข้าไทยทางช่องธรรมชาติอีก 10 มาจากมาเลย์ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.64 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,727 ราย โดยเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 9,701 ราย (จากเรือนจำ 71 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศ 26 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 73 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 18,559 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 10,075 ราย รวมยอดรักษาหายสะสม 1,699,934 ราย กำลังรักษาตัว 103,086 ราย โดยอยู่ในโรงพยาบาล 42,070 ราย อยู่ในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 61,016 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 2,687 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 603 ราย สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต เป็นชาย 41 ราย หญิง 32 ราย โดยเป็นคนไย 72 ราย จีน 1 ราย อายุน้อยที่สุด 19 ปี อายุมากสุด 104 ปี พบผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 47 ราย คิดเป็น 64% อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 22 ราย คิดเป็น 30% ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้รวมเป็น 94% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 4 ราย โดยภาคใต้พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด 22 ราย กทม. 9 ราย สมุทรสาครและสมุทรปราการ 7 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 ราย ภาคเหนือ 6 ราย ภาคตะวันออกและภาคกลาง 20 ราย ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 26 ราย พบมาจากโคลอมเบีย 1 ราย สหรัฐฯ 1 ราย ฟินแลนด์ 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย เมียนมา 1 ราย กัมพูชา 7 ราย และมาเลเซีย 10 ราย โดยพบลักลอบเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติ เป็นคนไทยทั้งหมด ทั้งนี้ พบว่าการติดเชื้อในพื้นที่ชายแดนใต้ และ 6 จังหวัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช ตาก ระยอง จันทบุรี และจังหวัดที่มีแนวโน้มเพิ่มคือ เชียงใหม่ และขอนแก่น