นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้รับสัมปทาน เตรียมปรับขึ่นค่าผ่านทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาสัปมทานที่จะปรับขึ้นค่าผ่านทางทุกๆ 5 ปี หลังจากที่เริ่มเปิดให้บริการวันที่ 15 ธ.ค. 2559 โดยรถ 4 ล้อ ปรับขึ้นจาก 50 บาทเป็น 65 บาท รถ 6 -10 ล้อ ปรับขึ้นจาก 80 บาท เป็น 105 บาท และรถมากกว่า 10 ล้อ ปรับขึ้นจาก 115 บาท เป็น 150 บาท โดยเมื่อ 11 ต.ค. 2564 ได้หารือกับ BEM ครั้งแรกทางบริษัทรับรู้ถึงข้อห่วงใย แต่เนื่องจากกระทันหันจึงยังคิดแคมเปญไม่ทัน และบริษัทเองก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดโคโรนา 2019 (COVID-19)โดยมีปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเส้นนี้ 50,000 คัน/วัน ขณะที่ตามสัญญาประเมินไว้ว่าจะมีปริมาณรถ 80,000 คัน/วัน ทาง BEM จึงได้ขอสงวนสิทธิการปรับขึ้นค่าผ่านทาง ซึ่งรายได้หายไปเกือบ 50% โดยภายในสัปดาห์หน้าจะนัด BEM มาหารืออีกครั้ง เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการ กทพ.พิจารณา คาดว่าภายในต้นเดือน พ.ย.นี้ จะต้องได้ข้อสรุปทั้งหมด ทั้งนี้ทางคณะกรรมการ กทพ.ได้มีข้อสั่งการมายังฝ่ายบริหารของ กทพ. เนื่องจากกระทรวงคมนาคมมีความความห่วงใยเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในการปรับขึ้นค่าผ่านทางครั้งนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงสถาการณ์การการแพร่ระบาดของโรคโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงสั่งการให้ฝ่ายบริหารของกทพ.ให้ไปหารือกับบริษัทคู่สัญญา หรือ BEM เพื่อหามาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ทาง หรือเยียวยาประชาชนได้อย่างไรบ้าง เช่น อาจจะเป็นการชะลอการขึ้น หรือการจัดแคมเปญพิเศษเพื่อจูงใจให้ประชาชนรู้สึกว่ายังได้รับการใส่ใจดูแล อย่างไรก็ตามอย่างไรก็ตาม กทพ.จะหารือกับ BEM อีกครั้ง คาดว่าจะน่าจะได้ข้อสรุปต้น พ.ย.64 เพื่อนำเสนอบอร์ด กทพ.ในช่วงกลางเดือน เพื่อให้ประชาชนรับผลกระทบน้อยที่สุด ขณะเดียวกัน กทพ.ก็จะดูแลและเยียวยาให้บริษัทผู้รับสัมปทานที่รับผลกระทบเช่นกัน นอกจากนี้วันที่ 15 ธ.ค.นี้ ที่จะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ส่วนจะขึ้นหรือไม่ขึ้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลเจรจากัน และยอมรับว่าหนักใจเนื่องจากต้องปฎิบัติตามสัญญาและทางเอกชนเองก็ได้รับความเดือดร้อน แต่จะพยายามเจรจาหาทางออกที่ดีที่สุด