วันที่ 14 ต.ค.64 เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ศบค. ได้เห็นชอบการปรับเงื่อนไขมาตรการ สำหรับกิจการและกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ที่เปิดให้บริการประกอบด้วย 1.การห้ามออกนอกเคหสถาน เวลาเดิม 22.00-04.00น. ปรับเป็น 23.00-03.00 น.อย่างน้อย 15 วัน เริ่ม 16 ต.ค.นี้ 2.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด เดิมเปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 21.00 น.(จำหน่ายเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค) ปรับเป็นเปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 22.00 น.จำหน่ายได้ทุกประเภทสินค้า เปิดบริการ เครื่องเล่น สวนสนุกได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ 3.กิจการอื่นๆ ที่เปิดทำการ โดยกำหนดเวลา เช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหารโรงละคร โรงมหรสพ (ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ) สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เวลาเดิมเปิดได้ถึงเวลา 21.00 น. ปรับเป็นเปิดดำเนินการตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.แต่ยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง ส่วนสถานที่เล่นกีฬาหรือ แข่งขันกีฬา ในพื้นที่เข้มงวดและสูงสุด เปิดดำเนินการได้ทุกประเภท กีฬา ตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมจัดการฯ -กีฬาในร่มแข่งขันได้ ไม่มีผู้ชม-กีฬากลางแจ้ง แข่งขันได้ มีผู้ชม ไม่เกิน 25% ผู้ชมได้รับวัคซีน ครบตามเกณฑ์ หรือมีATK และ RT- PCR ผลเป็นลบ ภายใน72 ชั่วโมง กรณีแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมกากรุงเทพฯพิจารณา รวมถึงพื้นที่ควบคุมสูงสุด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. จัดการแข่งขันได้ โดยจำกัดผู้ชม 4.สถานดูแลผู้สูงอายุ เดิมให้รับเฉพาะที่อยู่ประจำไม่เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ ปรับเป็นให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ โดยบุคลากรต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และส่งตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ขณะที่ผู้ใช้บริการต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ด้วยเช่นกัน 5.การขนส่งสาธารณะทุกประเภท เดิมความจุ 75% ของยานพาหนะ ปรับเป็นเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะ โดยให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแล 6.ศูนย์แสดงสินค้าศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ในลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม เปิดบริการจัดประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้แต่จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 500 คนเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมงให้มีเวลาพักและเปิดระบายอากาศของห้องประชุม รวมถึงเปิดดำเนินการตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.โดยให้ขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ กรณีเกิน 50 คน ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแนวทางปฏิบัติภายใน 18 ต.ค.นี้ โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า ส่วนการปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการและกิจกรรมในทุกพื้นที่ ประกอบด้วย 1.ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ มาตรการเดิมยังไม่เปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมสวนสนุก สวนน้ำจำกัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในบริเวณห้างสรรพสินค้าตามประดับที่ ปรับใหม่เป็นเปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมที่เล่นเป็นรายบุคคลหรือแข่งเป็นคู่เท่านั้น โดยให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่เปิดบริการ รวมถึงยังไม่เปิดบริการสวนน้ำ สวนสนุกในทุกพื้นที่ 2.สนามกีฬาทุกประเภทสวนสาธารณะ มาตรการเดิม จำกัดเวลาพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุด เวลา 21.00 น. ปรับเป็นเปิดดำเนินการตามเวลาปกติแต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.ซึ่งมาตรการอื่นคงเดิม 3.การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค มาตรการเดิมกำหนดการรวมกลุ่มตามระดับพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึงพื้นที่เฝ้าระวัง 25,50,100,200,500 คน ปรับใหม่เป็น เพิ่มการรวมกลุ่มตามระดับพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด ถึงพื้นที่เฝ้าระวัง ดังนี้ 50,100,200,300,500 คน และ4.สถานบันเทิงผับบาร์และคาราโอเกะ มาตรการเดิมยังไม่เปิดบริการ แต่ให้ผู้ประกอบการเตรียมการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และระบบระบายอากาศตามมาตรฐาน รวมถึงให้บุคลากรได้รับวัคซีนครบทุกคน ปรับมาตรการใหม่เป็น กระทรวงมหาดไทยกรุงเทพฯ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ของรัฐดำเนินมาตรการ สำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.2564 อย่างไรก็ตาม การเปิดกิจกรรม กิจการและการปรับระดับพื้นที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้