นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 12 ต.ค.64 กรมการค้าภายใน พร้อมด้วยสำนักงาน คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) จึงหารือกับผู้ผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ อาทิ ข้าวสารบรรจุถุง อาหารกระป๋องและอาหารสำเร็จรูป นม น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส และน้ำยาซักล้าง ซึ่งผู้ผลิตสินค้ายืนยันว่าสามารถผลิตและกระจายสินค้าได้เป็นปกติ และยังมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เข้มงวด ไม่ให้กระทบต่อกำลังการผลิตอีกด้วย ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน รวมทั้งได้เน้นย้ำให้ผู้ผลิตรักษากำลังการผลิตและบริหารจัดการสต็อกสินค้าเพื่อไม่ให้สินค้าขาดช่วง ตลอดจนขอให้มีแผนสำรองในการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งหากผู้ผลิตรายใดประสบปัญหาด้านการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่จังหวัดที่มีน้ำท่วมสูง กรมการค้าภายในพร้อมที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยในส่วนของ สขค.ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม ซึ่งหากพบการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมหรือมีการกดราคาที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการให้แจ้งต่อ สขค. ทั้งนี้กรมฯได้ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจราคาและปริมาณสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พาณิชย์จังหวัดจะได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากตรวจพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควรหรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท