วันที่ 13 ต.ค.64 เวลา 09.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมกันทำงานเอเปคเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ว่า นายกฯแสดงเจตจำนงไปหลายครั้งแล้ว ท่านก็พูดทำนองว่าไม่มีการยุบสภา หรือยังไม่มี เช่นนี้แล้วก็ต้องฟังท่าน เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาลและเป็นผู้มีอำนาจยุบหรือไม่ยุบสภา ก็ต้องถือท่านเป็นเกณฑ์ ส่วนที่พรรคการเมืองเริ่มทำพื้นที่กันแล้วนั้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราลงพื้นที่กันมานานแล้ว ตนทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรคกำชับส.ส.ลงพื้นที่ทำงานรับใช้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงปิดสมัยประชุมสภา เราดำเนินการต่อเนื่อง 2-3 ปีมาแล้ว ในส่วนของตนก็ทำงานต่อเนื่องไม่ได้แปลว่าจะมียุบสภาถึงจะลงพื้นที่ เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย พูดถึงแคนดิเดตนายกฯเป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เมื่อถามถึงกรณี น.ส.พรพิมล ธรรมสาร อดีตส.ส.เพื่อไทย (พท.) ถูกขับจากพรรค ได้มีการพูดคุยกันกับทางประชาธิปัตย์แล้วหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มี การพิจารณาเรื่องตัวบุคคลเป็นหน้าที่เลขาฯและรองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาค กรณีนี้ตนไม่มีข้อมูล เมื่อถามกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งยอดบริจาคเงินให้พรรคการเมืองจากผู้เสียภาษี ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเงินมากเป็นอันดับ 2 สะท้อนอะไรหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ถ้าวัดเป็นความนิยมแสดงว่าเราได้ลำดับ 2 ซึ่งดีกว่าที่เป็นอยู่ ที่อยู่อันดับ 4 อันดับ 5 ส่วนกรณีที่อันดับ 3 เป็นพรรคกล้าของนายกรณ์ จาติกวณิช นั้น ก็สุดแล้วแต่ ตนไม่ไปวิจารณ์พรรคการเมืองอื่น