วันที่ 27 ก.ย.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่นเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 34/2564 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้มีมติในการพิจารณาร่วมกันหลายวาระ โดยเฉพาะกับการติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จำนวนผู้ป่วยและการให้การรักษาความไปถึงมาตรการผ่อนคลายด้านต่างๆ ตามที่รัฐบาล และ ศบค.กำหนด โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงการผ่อนปรนค่าไฟฟ้าและน้ำประปาของ รพ.สนามทุกแห่งของจังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานต่างๆได้พูดคุยกันและก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ไปด้วยกันโดยยึดประชาชนชาวขอนแก่นเป็นที่ตั้ง ว่าด้วยการเปิดภาคเรียนประจำภาคเรียนที่ 2 ในเดือน พ.ย.ที่ขณะนี้การสำรวจข้อมูลกลุ่มอายุนักเรียนตั้งแต่ระดับ 12-18 ปี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ที่ได้มีการให้ผู้ปกครองได้ยินยอมในการให้เด็กๆได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งตามแผนงานคือกลุ่มอายุดังกล่าวจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ในวันที 4 ต.ค.ที่จะถึงนี้พร้อมกันทั้งจังหวัด “ขณะนี้รายขื่อและการยินยอมให้รับการฉีดวัคซีนของกลุ่มอายุดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปคือขั้นตอนของการเข้ารับการฉีดวัคซีนในสถานพยาบาลที่กำหนด ดังนั้นหากสถาบันการศึกษาใด นักเรียน คณะครู รวมทั้งบุคลากรภายในโรงเรียนได้รับวัคซีนเกินกว่า 75% ให้เสนอขอรับการพิจารณาให้เปิดทำการเรียนการสอนได้ทันที ขณะเดียวกันที่ประชุมยังคงได้มีการพิจารณาอนุญาตให้พรรคเพื่อไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งกำหนดจัดการประชุมในช่วงปลายเดือน ต.ค.โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ อ.เมืองขอนแก่น ดำเนินการตามระเบียบและข้อบังคับตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยงคงมีการพิจารณาอนุมัติในการจัดกิจกรรมทั้งการสอบเลื่อนระดับของข้าราชการในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น,การทดสอบเวลาของนักกีฬาว่ายน้ำภาค 3 การขอจัดตั้งคอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น ในค่ายทหาร รวมไปถึงการพิจารณาปิดศูนย์เฝ้าดูอาการหรือศูนย์พักคอยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 จากสถานการณ์ที่คลี่คลายลง อย่างไรก็ตามเป็นที่น่ายินดีว่าขณะนี้การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมาย 608 นั้นพบว่าพื้นที่ อ.พล,หนองสองห้อง,เปือยน้อย,เวียงเก่าและ อ.เขาสวนกวาง เป็นพื้นที่อำเภอที่กล่มเป้าหมายได้รับวัคซีนแล้วมากกว่าร้อยละ 50 ดังนั้นต่อจากนี้ไป 5 อำเภอดังกล่าวจะเป็นพื้นที่อำเภอนำร่องในการพิจารณาฉีดวัคซีนให้กับทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร กลุ่มงานบริการและสถานที่ท่องเที่ยว ที่ถนนสายหม่ำเมืองพล,สวนสัตว์เขาสวนกวางรวมไปถึงอุทยานธรณีวิทยาต่างๆในเขต อ.เวียงเก่าหรือแม้กระทั่งพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ของจังหวัดจะได้เป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวได้มั่นใจว่าผู้ให้บริการนั้นได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้วทุกคน