นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในงานประชุมสามัญประจำปี 2564 ของ ส.อ.ท.ว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา ส.อ.ท.ตระหนักถึงปัญหาและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจผู้ประกอบการ รวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ สภาอุตสาหกรรมฯ ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ มีภารกิจเพื่อช่วยเหลือสมาชิกภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ให้แนวคิดแก่สมาชิกถึงเวลาต้องกล้าเปลี่ยน ทั้งนี้ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ตลาด เปลี่ยนรูปแบบสู่ดิจิทัลมากขึ้น ยุคใหม่ต้องคิดให้ต่าง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นตัวช่วย ด้านการตลาด วางกลยุทธ์ 3 แนวทาง คือ การเข้าสู่ระบบออนไลน์ (Go Online) การก้าวออกไปเชื่อมโยงทั่วโลก (Go Global) และการเข้าถึงโครงการภาครัฐ (Go Government) สนับสนุนทั้งองค์ความรู้ ช่องทาง เครื่องมือ และเงินทุน โดยชูโครงการเมด อิน ไทยแลนด์(Made in Thailand) เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่ง ส.อ.ท.เตรียมจัดงานมหกรรมสินค้าแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทย FTI Expo ผลักดันสินค้าเมด อิน ไทยแลนด์ รองรับเปิดประเทศ ขณะที่ด้านการเงิน ส.อ.ท.ยังคงส่งเสริมสมาชิกให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่างๆมากขึ้น เน้น 2 แนวทางคือการผลักดันสินเชื่อรูปแบบซัพพลาย เช่น สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจหรือสินเชื่อหมุนเวียนคู่ค้า(Supply Chain Financing) และการระดมทุนในตลาดทุนสำหรับธุรกิจและเอสเอ็มอี การส่งเสริมสมาชิกให้สามารถนำนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม,การสร้างทักษะใหม่และการยกระดับทักษะการทำงานของบุคลากรภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการสรรหาบุคลากรให้ตรงอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 80 หลักสูตรเฉพาะทาง รวมถึงการยกระดับธุรกิจด้วยดิจิตอลทรานฟอร์มเมชั่น โดยความสำเร็จจากการที่ ส.อ.ท. สามารถเป็นผู้กำหนดมาตรฐานขั้นสูงของบางผลิตภัณฑ์ได้เองแล้ว ที่สำคัญยังคงส่งเสริมความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมครอบคลุมการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อม และพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดเป็นบริการเพื่อสมาชิก ส.อ.ท. โดยในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 สมาชิกสามารถนำเครื่องมือหรือบริการไปปรับใช้กับธุรกิจเพื่อให้อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ ขณะเดียวกัน ส.อ.ท.ยังคงเดินเคียงข้างสังคมไทยด้วยการจัดตั้งกองทุน “ส.อ.ท. ช่วยไทยสู้ภัยโควิด-19” เพื่อช่วยเหลือทั้งภาคสังคม สาธารณสุข และเศรษฐกิจไปพร้อมกัน โดยที่ผ่านมามีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 จังหวัดสมุทรสาคร), จัดหาวัคซีนและอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการรักษาและป้องกันโควิด-19 และส่งมอบห้องความดันลบและอุปกรณ์ให้กับโรงพยาบาล ทั้งนี้ ส.อ.ท.ยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือสมาชิกให้อยู่รอดจากวิกฤติโควิด-19 และ รอวันเติบโตอย่างเข้มแข็งตามคอนเซ็ปต์ “FTI Together We Can”