เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ชั้น 6 รัฐสภา มีการประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพปชร. นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ร่วมประชุม โดยมีวาระสำคัญพิจารณาถึงความชัดเจนแนวทางการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่าพรรคจะวางแนวทางในการส่งผู้สมัครอย่างไร ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม ทั้งนี้ก่อนการประชุมพล.อ.วิชญ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรค ถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ขณะนี้เรายังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ สำหรับคณะทำงานพรรค พปชร.พยายามที่จะหาคนที่มีความสามารถจริงๆ ตนเพิ่งเข้ามาดูในเรื่องนี้ เพราะยุทธศาสตร์เดิมของพรรคยังไม่ได้มีเรื่องนี้ตั้งแต่ที่ตั้งพรรคมา วันนี้จึงจำเป็นที่จะต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ว่าจะทำอย่างไร พล.อ.วิชญ์ กล่าวย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างแน่นอน ซึ่งเริ่มจากการเลือกตั้ง อบต.ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งอาจจะไม่ได้ส่งในนามของพรรคต้องดูคนที่ทำงานเพื่อประเทศจริงๆ สำหรับเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น เมื่อถึงเวลาก็จะรู้เองว่าจะส่งหรือไม่ส่ง อย่าเพิ่งรีบตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดพรรคพลังประชารัฐจึงไม่ส่งผู้ลงสมัครเป็นผู้ว่า กทม. พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า สำหรับการเข้ามาเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐของตนถือเป็นคนใหม่ในการเมืองถือว่ามีความท้าทาย แต่สิ่งที่สำคัญคือจะต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด ตนไม่ใช่นักการเมืองเข้ามาทำงาน เพื่อช่วยหัวหน้าพรรคก็จะเข้ามาช่วยงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในส่วนของเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ตนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอยู่แล้ว ตนเป็นคนทำตรงๆมีอะไรก็พูดกันตรงๆ ตนพยายามที่จะทำงานในหน้าที่นี้เพื่อประชาชนและประเทศให้มากที่สุด พยายามไม่ให้มีการแบ่งกลุ่มก้อนภายในพรรค สิ่งนี้ต้องพยายามให้ได้ “ ซึ่งหนึ่งในหน้าที่ที่พล.อ. ประวิตร แต่งตั้งตนเพื่อเข้ามาสร้างความรักและความสามัคคีภายในพรรคนั้น ต้องชี้แจงว่าจุดหลักของพรรค คือความปรองดอง ดังนั้นผมจึงพยายามที่จะทำให้ทั้งภายในพรรคและนอกพรรค หรือภายในประเทศให้เกิดการปรองดองให้มีความเข้าใจต่อการเดินหน้าของประเทศ ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือ ไม่มีสีอะไรทั้งนั้น คิดว่าหลังจากนี้ต้องดีขึ้นบ้านเมืองต่อจากนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งประเทศเป็นหลัก ไม่อยากให้แบ่งนู้นแบ่งนี่ สำหรับการสร้างความสามัคคี ปรองดอง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านทำได้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างก็ปรองดองตนยืนยันว่าไม่มีคลื่นใต้น้ำอย่างแน่นอน”พล.อ.วิชญ์ กล่าว พล.อ.วิชญ์ กล่าวยืนยันว่า การเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เข้ามาเพื่อคานอำนาจของนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเข้ามาช่วยทำงานให้กับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคหรือในกรรมการยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่ พล.อ. วิชญ์ กล่าวว่า “ไม่มี” นอกจากนั้นพล.อ. วิชญ์ ยังได้ปฏิเสธกรณีกระแสข่าวว่ามีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐลาออกเพื่อไปตั้งพรรคใหม่ด้วย เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่ จ.พระนครศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 22ก.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ท่านก็ลงพื้นที่ทั่วทุกพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าจะไปที่ไหนไปก็ไปทุกที่ พื้นที่ไหนที่มีความเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือก็ต้องไป สำหรับกำหนดการลงพื้นที่ก็ให้ฝ่ายที่ดูแลเรื่องนี้อยู่เป็นผู้จัดการกันไป