วันที่ 23 ก.ย.64 แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เตรียมยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหานายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 แจ้งถือครองที่ดินของรัฐ (น.ส.2) โดยมิชอบ โดยมีการระบุว่าถือครองไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งที่ไม่มีสิทธิในการถือครอง ว่า ข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่ คาดว่าเร็วๆนี้จะมีการสรุปสำนวนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาว่าข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่ หากมีจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา และให้นายศุภชัย มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนกรณีนักการเมืองแจ้งถือครองที่ดิน น.ส.2 ทำได้หรือไม่นั้น แหล่งข่าว ระบุว่า เดิมที่ดินดังกล่าวเป็นสิทธิในการถือครอง ไม่ต้องแจ้งในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน คล้ายคลึงกับการถือครอง ภ.บ.ท.5 เพราะเป็นที่ดินของรัฐ แต่ปัจจุบันมีบางรายแจ้งในบัญชีทรัพย์สินเข้ามาบ้าง ดังนั้นเมื่อแจ้งว่า ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบ หากปรากฏกรณีว่าถือครองไม่ถูกต้อง เช่น กรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ แต่เป็นความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง “ดังนั้นต้องดูเจตนาของนายศุภชัย ว่า การแจ้งถือครองที่ดิน น.ส.2 ดังกล่าว เป็นอย่างไร ถือครองโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ดูพฤติการณ์เป็นหลัก หากมีมูลว่าถือครองไม่ถูกต้อง อาจถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงแบบกรณีของ น.ส.ปารีณา ซึ่งเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ในส่วนของคดีอาญานั้น เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนดำเนินการไป เช่น กรณีการแผ้วถางป่า หรือรุกป่า” ส่วนนักการเมืองรายอื่น ๆ ที่ถูกร้องเรียนเข้ามายัง ป.ป.ช. นั้น แหล่งข่าว ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบทุกเรื่อง ถ้ารวบรวมพยานหลักฐานใกล้แล้วเสร็จ จะดำเนินการสั่งไต่สวน เหมือนกรณีของนายศุภชัย และ น.ส.ปารีณา