กฟผ.-ชุมชน ร่วมกิจกรรม“ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” สืบสานศาสตร์พระราชาถวายเป็นพระราชกุศล กฟผ. ร่วมกับ ชุมชนรวมพลังรวมใจเดินตามรอยพระราชดำรัสพระบรมราโชวาทที่พระราชทานเป็นหลักดำเนินชีวิตที่ดีงามเป้าหมายคือความสุขอย่างยั่งยืน สืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 เพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลกับโครงการอาชีพเกษตรกรรมชีววิถีกฟผ.“ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” เกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิตที่ได้ร่วมกันปลูกเมื่อช่วงวันแม่ 12 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ภายในแปลงนาสาธิตชีววิถี กฟผ. เพื่อการเรียนรู้ศาสตร์พระราชา โดยทางกฟผ. เตรียมนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เก็บเกี่ยวได้มอบให้ชุมชนชีววิถีทั่วประเทศเพื่อปลูกบริโภคในครัวเรือน และจัดทำเป็นข้าวสารมอบเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงวันพ่อแห่งชาติหรือวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิตชีววิถี กฟผ. ตามกิจกรรมรวมพลังสืบสานพระราชปณิธานเพื่อการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาที่พระราชทานเป็นเครื่องนำทางดำเนินชีวิตไปสู่ความสุขอย่างยั่งยืนบนความพออยู่พอกินด้วยลำแข้งตัวเอง “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และชุมชนร่วมกันดำเนินการ เพื่อน้อมสืบสานพระราชปณิธานและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ที่มีต่อประชาชนชาวไทย โดยมี นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน นายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้บริหาร และพนักงาน กฟผ. และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. พร้อมกับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง กฟผ. ร่วมเกี่ยวข้าว ณ บริเวณแปลงนาสาธิตชีววิถี กฟผ. เพื่อการเรียนรู้ศาสตร์พระราชา บนเนื้อที่ 1 ไร่ ภายในสวนน้ำพระทัย สำนักงานใหญ่ กฟผ. จ.นนทบุรี นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา กฟผ. และชุมชน ได้ร่วมกันปลูกข้าวในแปลงนาสาธิตแห่งนี้ ปัจจุบันข้าวได้เจริญงอกงามออกรวงพร้อมที่จะทำการเก็บเกี่ยว โดยพันธุ์ข้าวหลักที่ปลูกในแปลงนาสาธิต เป็นพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความต้านทานโรคสูง เป็นที่นิยมปลูกในภาคกลาง คาดว่าจะให้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 400 กิโลกรัม โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกี่ยวได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับชุมชนเครือข่ายชีววิถี กฟผ. นำไปปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปสีเป็นข้าวสารเพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์บางกรวยต่อไป ผู้ว่ากฟผ.กล่าวว่านอกจากนี้ ในบริเวณโดยรอบแปลงนาสาธิต ยังจัดให้มีการสาธิตโครงการชีววิถีในด้านต่าง ๆ เป็นวิถีที่เดินตามรอยพระยุคลบาทที่พระราชทานหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ไว้อาทิ การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์น้ำ การปศุสัตว์ และการจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยกระบวนการปลอดสารเคมี โดยใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพเป็นเครื่องมือ รวมถึงออกแบบจำลองสภาพพื้นที่ปลูกป่า กฟผ. แบบต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ การสร้างฝายชะลอน้ำ พื้นที่แก้มลิง และการปลูกหญ้าแฝกตามแนวทางศาสตร์พระราชา สำหรับน้ำที่ กฟผ. นำมาใช้ในการดูแลพื้นที่ทั้งหมดนี้ เป็นน้ำที่มาจากบ่อพักน้ำที่ผ่านการใช้งานจากหอหล่อเย็น (Cooling Tower) ของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ที่ผ่านการบำบัดและตรวจสอบคุณภาพแล้วนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และแสดงให้เห็นว่าโรงไฟฟ้าพระนครเหนือมีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี ไม่เป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงโรงไฟฟ้า ในวันดังกล่าวภายในบริเวณพื้นที่แปลงนาได้มีกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยในวิถีการทำนาแบบโบราณเพื่อให้ผู้ร่วมเกี่ยวข้าวได้ชมได้เรียนรู้แบบรวบรัดเช่นพิธีทำขวัญข้าวและการแสดงเพลงเกี่ยวข้าว โดยคณะแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน –อีแซว) ประจำปี 2539 มีการสาธิตเกี่ยวข้าวโดย นางศิริรัตน์ สร้อยกล่อม เกษตรกรดีเด่นจังหวัดนนทบุรี และเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในโครงการชีววิถีของ กฟผ. ตลอดจนนิทรรศการเรียนรู้การเกษตรแบบผสมผสานตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการสาธิตการฝัดข้าว สีข้าวให้ชมอีกด้วย