บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ฉลองครบรอบการดำเนินงาน 129 ปี ในการสร้างความมั่นคงและตอบสนองความต้องการด้านพลังงาน รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมไทย ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Trusted Partner for Better Life) เชลล์ ประเทศไทย เดินหน้ายุทธศาสตร์ “Powering Progress” โดยการผนึกความร่วมมือและสร้างคุณค่าให้กับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อเร่งขับเคลื่อนสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการ ผลักดันการเจริญเติบโตของธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมเคียงข้างสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เชลล์ได้ประกาศเป้าหมายในการเป็นธุรกิจพลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งจากการดำเนินงานและจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จำหน่ายให้เป็นศูนย์ พร้อมทั้งได้เปิดตัวพลังงานทางเลือกใหม่ในธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น Lubricant ได้แก่ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรด พรีเมี่ยม เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า 0W สูตรใหม่ คาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral) ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีเพียวพลัส (PurePlus Technology) นอกจากนี้ในเดือนมีนาคม เชลล์ยังได้เปิดตัวจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ควิกชาร์จ (EV) ภายใต้แบรนด์ Shell Recharge เป็นครั้งแรกอีกด้วย นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ ตลอดระยะเวลาที่เชลล์เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เชลล์ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างยาวนาน ในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 130 เราจะยังคงเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยตามยุทธศาสตร์หลักของเรา โดยนำความเชี่ยวชาญในระดับโลกของเชลล์มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความจำเป็น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลงให้น้อยที่สุด ควบคู่กันกับการดูแลเคียงข้างสังคมในทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างการเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจไทยต่อไป” สำหรับการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจนั้น เชลล์มุ่งตอบสนองต่อความต้องการด้านพลังงานและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ด้วยการจับมือกับพันธมิตรเปิดตัวโซลูชั่นใหม่อยู่เสมอ เช่น การร่วมมือกับอีซี่ฮอล เพื่อช่วยให้การขนส่งมีความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงร่วมมือกับธุรกิจเดลิเวอรี่ชั้นนำเพื่อดูแลพนักงานจัดส่งสินค้าท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ในด้านการดูแลสังคมนั้น เชลล์ได้ยกระดับการดูแลสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีความปลอดภัย เดินหน้ามาตรการป้องกันรอบด้านเพื่อดูแลสุขภาพอนามัยและความปลอดภัย ตลอดจนเร่งระดมความช่วยเหลือ โดยเฉพาะความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องเช่น สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์การแพร่ระบาด นอกจากนี้เชลล์ยังเดินหน้าสร้างความมั่นใจในเรื่องการจัดสรรพลังงานที่จำเป็นและสะอาดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนอย่างพอเพียง นอกจากนี้ ตามเจตนารมณ์ในการเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ เชลล์ ประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคมด้านต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน อาทิ “เชลล์เติมสุข” โครงการภายใต้แนวคิด Community Skills and Enterprise Development (CSED) ที่เน้นการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและชุมชนผู้สมควรได้รับโอกาส ผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทักษะอาชีพ รวมถึงโครงการ “Road Safety” ที่ช่วยรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน