สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติในสิงคโปร์ เรียกร้องให้ทางการสิงคโปร์ เร่งบังคับฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประชาชน โดยเฉพะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ภายหลังจากพบผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยหนักในกลุ่มดังกล่าวที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รวมถึงอัตราการติดเชื้อในกลุ่มประชาชนทั่วไปมีจำนวนสูงขึ้นขณะที่อัตราการฉีดกลับมาจำนวนคงที่ โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญฯ ระบุว่า ทางการสิงคโปร์ ต้องใช้ความกล้าหาญทางการเมืองในการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้แก่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงชีวิตมากที่สุด โดยการฉีดวัคซีนดังกล่าว จะช่วยชีวิตผู้สูงอายุเหล่านั้นได้อย่างมากมาย โดยการฉีดวัคซีนจะเป็นวิธีป้องกันได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่นๆ และการฉีดวัคซีนข้างต้น ก็ยังช่วยป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจ และสังคมจากโรคระบาดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับ ปัจจุบันทางการสิงคโปร์ บังคับใช้กฎหมายให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีและโรคหัดเท่านั้น ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ยังไม่ถูกบังคับใช้เป็นกฎหมาย ขณะเดียวกันทางด้าน อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในสิงคโปร์ ยังมีอัตราคงที่ ที่ร้อยละ 82 ของประชากร และมีผู้สูงอายุไม่ได้ฉีดวัคซีนอยู่ราว 87,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ปรากฏว่า ผู้ติดเชื้อโควิดที่อายุ 80 ปีขึ้นไปต้องรักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤติหรือเสียชีวิตในอัตราร้อยละ 15 สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสิงคโปร์ พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 79,899 ราย มากเป็นอันดับ 115 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 65 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 71,628 ราย