ชี้ช่วง24ชม.วิกฤติ/ต้องรีบดึง”สติ” นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวถึงปัญหาฆ่าตัวตายที่เป็นข่าวบ่อยครั้งว่า หลายรายก่อนลงมือจะส่งสัญญาณเตือนบอกเหตุ ให้ครอบครัว-คนใกล้ชิดเสมอ แต่ผู้ที่ได้รับสัญญาณเตือนมักไม่เข้าใจ ซึ่งการมีความรู้เกี่ยวกับวิธีสังเกตสัญญาณเตือนและช่วยเหลือเบื้องต้น จึงสำคัญและจำเป็นยิ่ง หากผ่านพ้นช่วงวิกฤติ 24ชั่วโมงไปได้ ความต้องการจะฆ่าตัวตายจะค่อยๆ ลดลง ทั้งนี้ ครอบครัว ชุมชน สังคมต้องดูแลเอาใจใส่ ซึ่งผู้ที่เสี่ยงได้แก่ กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติชีวิต มีอารมณ์หรือบุคลิกหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าวรุนแรง หรือ ผิดหวัง ล้มเหลว สูญเสีย เจ็บป่วย โรคจิตเวช ติดสุรา-ยาเสพติด มีคนในครอบครัวฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะหากมีประวัติทำร้ายตัวเองหรือพยายามฆ่าตัวตายต้องเฝ้าระวังพิเศษ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หน.กลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิตกล่าวว่า การแสดงออกถึงการจะทำร้ายตัวเองไม่ว่าคำพูด พฤติกรรม เช่นส่งข้อความ ภาพ คลิปวีดีโอ ข่มขู่ตัดพ้อ พูดจาสั่งเสียเป็นนัย หรือโพสต์ภาพวิธีฆ่าตัวตาย ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญที่สุดที่จะเกิดการทำร้ายตนเองจริงได้ คือcall for help ที่พยายามร้องขอความช่วยเหลือ เป็นเรื่องฉุกเฉินที่ต้องช่วยเหลือทันที และการช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือทำให้ตั้งสติให้ได้ เพราะภาวะที่เกิดเป็นภาวะขาดสติ หากไม่สามารถช่วยเหลือหรือจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อาจเชื่อมต่อหาคนพูดคุยด้วย เช่น คนที่เขารัก ไว้ใจใกล้ชิดที่สุด เพื่อช่วยดึงสติกลับมา หรือขอความช่วยเหลือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ 191