วันที่ 15 ก.ย.64 ที่พัทยา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) ตร. ลงพื้นที่ภาคตะวันออก ตรวจพื้นที จ.ระยอง และเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ย่านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เร่งรัดการผลักดันโครงการ "Smart Safty Zone" ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้เร่งรัดพื้นที่นำร่อง 15 สถานีตำรวจ นำหลักการ SMART  SAFETY ZONE 4.0 ไปใช้ภายใต้ชื่อโครงการ "ระยอง สมาร์ท เซฟตี้โซน" และ "จอมเทียน พัทยา สมาร์ท เซฟตี้โซน" ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนารูปแบบวิธีการป้องกันอาชญากรรม แบบบูรณาการทุกภาคส่วน โดยใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางตามแนวคิดเรื่อง “เมืองอัจฉริยะ” นำไปสู่ความปลอดภัยจากอาชญากรรม อย่างยั่งยืน โดยสาเหตุที่เลือก เมืองระยอง และเมืองพัทยา เป็นพื้นทีนำร่องนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยและมาท่องเที่ยว สำหรับเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ อาทิ 1. การติดตั้งกล้องวิเคราะห์ทะเบียนรถ กว่า 300 จุด ,2. จัดตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการ (Control Command Operations Center : CCOC ) ซึ่งเชื่อมกล้อง CCTV ของภาครัฐ และเอกชน เข้ามายังห้องปฏิบัติการ โดยใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์ประมวลผล,4. ใช้ Police 4.0 หรือ ตู้แดง 4.0,5. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น เพิ่มแสงสว่างในเส้นทางเปลี่ยว หรือ เพิ่มกล้องวงจรปิดในซอยที่มีคนเดิน เป็นต้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า โครงการสมาทเซฟตี้โซน เป็นโครงการที่ท่าน ผบ.ตร.ได้ริเริ่มไว้ เป็นการทำงานที่นำรูปแบบใหม่ของตร. คือ การป้องกันอาชญากรรมในเชิงรุก เป็นการทำงานที่ประหยัดงบประมาณและตรงความต้องการของประชาชน เมื่อเหตุไม่เกิดความเสียหายก็ไม่เกิด ปัญหาสังคมก็จะลดลง เมื่อก่อนเรายังไม่มีเทคโนโลยี ตอนนี้เรานำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคประชาชน และองค์กรเอกชน และหลัง 1 ต.ต. นี้ท่าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร จะเพิ่มพื้นที่เป็น 1 จังหวัด 1 สมาร์ท เซฟตี้โซน โดยจะเน้นการให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มาก เขาจะได้รู้สึกว่าได้อะไรจากโครงการ