ความตายทุกคนอยากหลีกหนี แต่ไม่มีใครหนีพ้น เพียงรอว่า ไม่วันใดวันหนึ่งถึงเวลาก็ต้องจากไป แต่ยังมีคนไม่น้อยที่บ่นอยากตายและทำให้ตนเองตายได้สมใจ ในสังคมยุคดิจิทัลคงเคยได้ยินและได้เห็นบางคนแสดงสดการฆ่าตัวตายหรือ สื่อสารให้รู้ว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ อาจด้วยอารมณ์ชั่ววูบขณะนั้น หรืออาจเรียกร้องความสนใจ คนที่ตั้งใจฆ่าตัวตายจริงๆหลายคนที่ไม่มีลางบอกเหตุ ตัดสินใจอย่างฉับพลันยากที่ใครจะเหนี่ยวรั้ง สร้างความเศร้าโศก ตกตะลึงเพราะไม่คาดคิดมาก่อนเป็นข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง ถ้าถามว่าใครบ้างไม่เคยเครียด หากตอบว่าไม่เคย จะบอกว่าเป็นคำตอบที่หลอก แม้กระทั่งตัวเอง การจัดการกับความเครียดต่างหากที่หลายคนเอาชนะมันได้ อะไรที่ทำให้อารมณ์ขุ่นมัว หงุดหงิด ไม่ได้อย่างใจก็ทำให้เครียดได้ เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราจะห้ามใครว่าอย่าเครียด มันยากนะ เหมือนห้ามฟ้า ห้ามฝน เลยทีเดียว แต่บอกได้เพียงว่า ความเครียดทำให้เกิดโรคภัยกับตัวเอง เช่น โรคมะเร็งโรคหัวใจ สถิติคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเป็นอันดับสามรองจากอุบัติเหตุ และโรคมะเร็งที่ครองอันดับหนึ่ง แสดงว่าคนไทยมีความเครียดสูงขึ้น โรครุมเร้ามากขึ้นและความเครียด(Stress)ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการตัดสินใจฆ่าตัวตาย ความเครียด ถ้าจัดการกับมันไม่ได้อาจมีผลต่อพฤติกรรมหลากหลายรูปแบบเช่น ก้าวร้าว หรือไม่ก็ซึมเศร้า (Major Depressive Disorder หรือ MDD) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ชื่อ เซโรโทนิน (Se rotonin) มีปริมาณลดลงทำให้รู้สึกหม่นหมอง ท้อแท้ สิ้นหวัง เบื่อหน่ายสังคมนอนไม่หลับ ฝันร้าย เป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ส่งผลต่อการดำรงชีวิต โรคซึมเศร้ามีสาเหตุจากพันธุกรรม ที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก และอีกสาเหตุคือเกิดจากตนเองที่ย้ำคิดย้ำทำในประสบการณ์ที่ทำให้เศร้าหมอง วิตกกังวล ซึ่งภาวะซึมเศร้าอาจจะเกิดเป็นระยะเวลาสั้นๆ และเป็นบางช่วงของชีวิตก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เป็นตัวการให้โรคกำเริบคือความเครียดนั่นเองจึงไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยซึมเศร้า อยากจะฆ่าตัวตายทุกคน ตัวกระตุ้นคือสภาพแวดล้อมต่างหาก จากสถิติประมาณ 60% ของผู้ป่วยจากโรคซึมเศร้าที่คิดฆ่าตัวตายอาจจะมากกว่าคนปกติ แต่ใครก็ตามถ้ามีอาการของโรคนี้ควรพบจิตแพทย์เพราะสามารถเยียวยาได้ แต่คนส่วนมากมักไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็อาจสายเกินไป บางคนไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าแต่เป็นเพราะความเปราะบางในจิตใจที่ไม่สามารถเผชิญกับปัญหาต่างหาก จึงทำให้ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เคยดูข่าวที่มีคนกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำเพื่อฆ่าตัวตายพอตกลงไปจริงๆ ปรากฏว่า ดำผุดดำว่าย พยายามที่จะโผล่ขึ้นมาโบกมือให้คนช่วย นี่เป็นตัวอย่างของอารมณ์ที่มักเกิดกับคนที่ขาดความอดทน และขาดสายใยรักจากคนในครอบครัวที่พอจะสื่อสารให้เข้าใจและช่วยประคับประคองชีวิต หลายคนมีอารมณ์เศร้า เหงา สิ้นหวัง อ่อนล้าแก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ แต่ไม่คิดฆ่าตัวตาย เพราะยังเห็นคุณค่าของตนแต่ต้องการเพียงใครสักคนรับฟัง ต้องการกำลังใจ เหมือนชื่อเพลง "กำลังใจ" ของวงโฮบ ที่ไพเราะมากมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า ..."กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทานกับฉันได้ไหม ..." แน่นอนว่ากำลังใจ (Encourage)คือพลังที่เป็นความรู้สึกจากใจ ใจต่อใจ ที่ส่งต่อกัน ขอความช่วยเหลือกัน เพื่อเพิ่มพลังใจที่รู้สึกอ่อนล้า มันดูเป็นนามธรรมที่ยิ่งใหญ่มาก เพียงใช้คำพูดอย่างจริงใจการสัมผัสหรือโอบกอดอย่างเอื้ออาทร ฟังดูเหมือนง่ายแต่ให้กันยากเพราะขาดทักษะการเปิดใจนั่นเอง ทุกคนควรสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้นกับตนเอง โดยการเห็นคุณค่าแห่งตนถ้าปล่อยใจให้อ่อนไหวไปตามแรงของปัญหาใครก็ไม่อาจช่วยได้ เปรียบกับการหกล้มถ้าเจ้าตัวไม่อยากลุก รอให้ผู้อื่นยื่นมือมาดึงมายก ก็คงต้องใช้หลายแรงฉุดกลับกันถ้าเจ้าตัวพร้อมที่จะลุก ขอเพียงมือใครสักคน แค่ปลายนิ้วสัมผัสมือเท่านั้นความมั่นใจบวกกับกำลังใจที่เป็นพลังเดิมทำให้ลุกขึ้นได้อย่างง่ายดาย หลายคนที่ฐานะทางเศรษฐกิจและทางสังคมดี แต่ฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังความรัก นี่ก็เป็นตัวอย่างของคนเห็นแก่ตัวที่คิดว่า "ตัวกูของกู และตัวมึงก็เป็นของกู" ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ คนที่ขาดความอบอุ่น ได้อะไรมาง่ายๆ มักจะเป็นเช่นนี้ ไม่ยอมรับแม้การถูกตำหนิ พ่อแม่ที่มัวแต่สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจแต่ลืมสร้างความมั่นคงทางด้านจิตใจให้กับบุตร มีหลายกรณีที่น่าสนใจให้เป็นกรณีศึกษา เมื่อเทียบกับคนที่ขาดแคลนและคนที่พิการ ยังเลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อคนรอบข้าง การให้กำลังใจกับตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำโดยหาข้อดีในตัว ภูมิใจในสิ่งที่เป็นใครที่เคยคิดฆ่าตัวตายลองตรองดูว่าอะไรเป็นต้นเหตุและผ่านพ้นจุดนั้นมาได้อย่างไร และถ้าคนรอบข้างคิดเช่นนั้นบ้าง จะให้ข้อคิดอะไร เคยเห็นพ่อแม่และคนที่รักของคนที่ฆ่าตัวตายไหมว่าโศกเศร้าเพียงใด จากโลกนี้ไป ได้ทำสิ่งดีๆ บ้างหรือยังปัญหาก็ยังไม่ได้แก้ไข คนที่ไม่รัก เขาดีใจและสะใจรู้ไหม เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว..ทำไมถึงอยากตาย..... รศ.วันทนา จันทพันธ์ อดีตอนุกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรีฯ วุฒิสภา