นายสุพจน์ พงษ์สุพัฒน์ ประธานสหภาพข้าราชการและคนทำงานภาครัฐ ยื่นหนังสือถึงนายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน เพื่อให้พิจารณา เรื่อง คัดค้านการโอนย้ายแต่งตั้งหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้หนังสือระบุว่า เนื่องด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้นำเสนอวาระการโอนย้ายแต่งตั้ง นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ แทนนายสุทธิ สุโกศล ที่จะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย. นี้ สหภาพข้าราชการฯ เห็นว่าการกระทำของ รมว.แรงงาน เป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม ขัดต่อหลักจริยธรรมและหลักการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ ส่งผลกระทบเสียหายต่อภาพลักษณ์ของกระทรวงแรงงาน และส่งผลกระทบต่อข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนพนักงานลูกจ้างของกระทรวงแรงงานอย่างร้ายแรง โดยการโอนย้ายข้าราชการซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงหนึ่ง เพื่อมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงสุดในอีกกระทรวงหนึ่ง มิใช่วิถีปฏิบัติที่กระทำกันทั่วไป นอกจากจะมีเหตุที่จำเป็นอย่างยิ่ง และต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ทางราชการและหน่วยงานที่รับโอนแต่งตั้งเท่านั้น อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงหลักการและผลกระทบของการบริหารบุคลากรในองค์กรอีกด้วย ดังนั้น การโอนย้ายแต่งตั้งข้ามกระทรวง จึงไม่ปรากฏว่ามีกระทรวงใดกระทำกัน "สหภาพข้าราชการฯ ได้ทำหนังสือคัดค้านการโอนย้ายแต่งตั้งดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรี รมว.แรงงาน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการโอนย้ายแต่งตั้งครั้งนี้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องชอบธรรม และระบบคุณธรรมในการบริหารบุคลากรภาครัฐ รวมทั้งเป็นการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของข้าราชการ พนักงานลูกจ้างในหน่วยงานราชการ แต่ยังไม่ได้รับความคืบหน้า จึงขอให้คณะ กมธ.การแรงงาน ช่วยเหลือโดยยับยั้งการโอนย้ายแต่งตั้งครั้งนี้ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของคณะ กมธ. เพื่อมิให้การโอนย้ายแต่งตั้งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมดังกล่าวดำเนินต่อไป จนสร้างความเสียหายต่อหน่วยงานราชการ และระบบการบริหารบุคลากรภาครัฐ" นายสุเทพ กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะส่งผลกระทบกับแรงงานหลายคน โดยบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต้องมีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์โดยตรง ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะ กมธ. ในวันนี้ และจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องและทันต่อเหตุการณ์ต่อไป เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. นี้