"วัชระ"กระตุก "พรเพชร"สอบทุจริต 2 ปมสมัยสุวิจักษณ์ 300 ล้านบาทไม่คืบ แฉปล่อยเด็กเพื่อไทยนั่งหน้าห้องเลขาสภากินข้าวฟรี แถมเรียกบ.เอกชนสร้างรัฐสภาเจรจา เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 14 ก.ย.59 ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังเข้ายื่นหนังสือให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เพื่อติดตามผลการตรวจสอบโครงการทุจริตต่างๆ ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีการตรวจสอบรวม 2 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการอนุมัติใช้งบประมาณส่อในการทุจริตก่อหนี้ผูกพันตั้งแต่ปี 2556 เป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท ใน 15 โครงการ เช่น การปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ ห้อง 3301 อาคารรัฐสภา 3 จำนวน 36.5 ล้านบาท สร้างห้องประชุมยุทธศาสตร์ จำนวน 24.5 ล้านบาท ปรับปรุงห้องน้ำระบบสุขาภิบาล จำนวน 5 ล้านบาท สร้างห้องออกกำลังกายและห้องทำงานสื่อมวลชนที่ไม่ต้องลงเสาเข็มหรือทำหลังคาใหม่เลย จำนวน 17.9 ล้านบาท โครงการปรับพื้นฐานพระบรมราชนุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 จำนวน 13.8 ล้านบาท โครงการจัดซื้อเครื่องทำน้ำดื่ม 62 เครื่อง เครื่องละ 7 หมื่นบาท รวม 3.2 ล้านบาท โครงการติดตั้งเครื่องสแกนบุคคลตรวจสอบการเข้าออกอาคารรัฐสภา จำนวน 62 ล้านบาท และนาฬิกาเทวดา 240 เรือน จำนวน 15 ล้านบาท เป็นต้น ว่าคืบหน้าถึงไหนแล้ว เพราะผ่านมา 2 ปี ยังไม่มีการลงโทษข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้อง และขออย่าลงโทษข้าราชการชั้นผู้น้อยแต่ขอให้กันไว้เป็นพยาน หลังจากนี้อีก 3 เดือนจะมาติดตามรับฟังผลสรุปการตรวจสอบทุจริตโครงการต่างๆ นายวัชระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการสภาผู้แทนราษฎรถึงพฤติกรรมของนายโรจนศักดิ์ จันทรติธเนศ หรือนายเต๊ะ ที่อ้างว่าเป็นคนของอดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และเป็นที่ปรึกษาของอดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายสุวิจักขณ์ ทั้งที่การแต่งตั้งไม่ได้เป็นระเบียบของทางราชการ เป็นเพียงตำแหน่งที่กล่าวอ้างแต่สภากลับปล่อยให้นายโรจนศักดิ์ทำหน้าที่นั่งตรวจแฟ้มงานในโครงการจัดซื้อจัดจ้างทุกโครงการในยุคนายสุวิจักษณ์จนเกิดการทุจริตในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็ยังปล่อยให้บุคคลผู้นี้เข้ามานั่งทำงานที่ชั้น 2 ที่หน้าห้องเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทั้งยังสามารถสั่งการให้ข้าราชการรัฐสภาโดยอ้างว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ได้รับมอบหมายจากประธานสนช.ให้ดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และยังเรียกตัวแทนบริษัทผู้รับจ้างและบริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรัฐสภาใหม่มาเจรจา รวมถึงเรียกข้าราชการมาพบเพื่อเสนอตำแหน่งให้โดยอ้างว่าจะขอผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในสนช.ให้ แต่จะต้องมาดูแลรับใช้และใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการปฏิบัติตามคำสั่งของตัวเอง จึงขอให้นายพรเพชร ตรวจสอบบุคคลดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับสมาชิกสนช.คนใด มีตำแหน่งข้าราชการจริงหรือไม่ และเข้ามานั่งทำงานหน้าห้องเลขาสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไร ทั้งยังรับประทานอาหารฟรีทุกวันโดยให้ข้าราชการไปตักอาหารจัดเลี้ยงแม่น้ำ 5 สายมากินฟรีทุกวัน มีการแอบอ้างและใช้อาคารรัฐสภากระทำการดังกล่าวจริงหรือไม่ อย่างไร และขอให้แจ้งทราบด้วย เพราะเสื่อมเสียต่อสถานที่อันทรงเกียรติ นายวัชระ กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากกรณีนายพรเพชร เคยมีคำสั่งสนช.ที่ 107/2559 เรื่องลงโทษไล่ออกนายสมชาติ ธรรมศิริ และคำสั่งที่ 106/2559 เรื่องให้ลงโทษปลดออกนายคุณวุฒิ ตันตระกูล ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.2559 กรณีการใช้งบที่ไม่เหมาะสมเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับการสอบสวนการทุจริตที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มากมาย แต่กลับยังไม่มีผลสรุปการลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร รวมถึงเรื่องที่เคยยื่นหนังสือให้ตรวจสอบโครงการทุจริตโครงการอิ่มบุญ จำนวน 84 ล้านบาทของวุฒิสภา นายพรเพชรไม่ได้ตรวจสอบหรือ “ผมขอส่องไฟฉายเปิดไฟไล่โกงที่รัฐสภาสนองนโยบายการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)”นายวัชระ กล่าว