"บิ๊กตู่" ลั่นพร้อมสู้ศึกซักฟอก ด้าน "อาคม" ลั่นเก็บข้อมูลชงนายกฯ ชี้แจงฝ่ายค้านไร้ปัญหา "วิรัช" ยันพรรคร่วมรัฐบาลรักกันเหนียวแน่น พร้อมผนึกกำลังประท้วงหากอภิปรายนอกประเด็น "เสกสกล" ซัดฝ่ายค้านใช้ภาษาต่ำ-ถ่อยเขียนญัตติ อัดจับมือ"ก้าวไกล" ผสมโรง "แก๊งสามกีบ" เล่นเกมนอกกติกา เย้ยศึกซักฟอกน้ำลายท่วมสภาฯเหมือนเดิม ไร้หลักฐาน เน้นตีกิน-กล่าวหา ขู่ปล่อยเฟคนิวส์ เจอฟ้อง ส่วน "พท."แย้มชำแหละ"บิ๊กตู่" จัดซื้อยุทโธปกรณ์ ทอ.3พันล้าน พร้อมคาดโทษ ส.ส. ไม่มาประชุม-โหวตสวน ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ขณะที่ "สิระ-ไฮโซลูกนัท"ปะหน้า ตามคำท้า เคลียร์ปมตาปอดจริงหรือไม่ ก่อน"สิระ"ไม่พอใจ หลัง "ไฮโซลูกนัท" นำเช็ค 10ล. มาวางแทนเงินสด เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคลในช่วงวันที่ 31 ส.ค. -3 ก.ย.64 ว่า ในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น กระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนข้อมูลให้นายกฯและอยู่เคียงข้างนายกฯ ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้สั่งการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ช่วยผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ สู่การพิจารณาของสภาฯ โดยเร็ว ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันที่ 31 ส.ค.นั้น พล.อ.ประยุทธ์มีความพร้อม และได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการอภิปราย ด้าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายฯ ว่า คณะทำงานชุดนี้แสดงให้เห็นถึงความมีเอกภาพ เสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่ได้มีความแตกแยก ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคเล็ก ซึ่งเราได้สรุปทิศทางในญัตติอภิปรายฯของฝ่ายค้าน เขียนด้วยถ้อยคำที่หยาบคายต่ำถ่อยที่สุดใน และไม่เล่นในกติกา เพราะเป็นขบวนการจิ๊กซอว์จับมือกันของคนในสภาฯ และกลุ่มนอกสภาฯ ซึ่งเป็นเกมการเมือง โดยเปิดแคมเปญให้ประชาชนร่วมลงชื่อในเว็บไซต์ไล่นายกฯ ตนอยากถามว่าแบบนี้เป็นการเล่นนอกกติกาประชาธิปไตยหรือไม่ "วันนี้มีเครือข่ายโยงใยจับมือกันทั้งคนในสภาฯ กับนอกสภาฯ ทั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรัฐมนตรีและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย คนของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ที่จับมือกันผสมโรงเป็นขนมจีนผสมน้ำยา ใช้ทุกวิถีทางเพื่อต้องการล้มรัฐบาล รวมถึงคนแดนไกลอย่าง นายโทนี่และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมให้ร้ายรัฐบาล เรื่องเหล่านี้เราอ่านเกมออก ซึ่งการอภิปรายฯ ครั้งนี้ นอกจากญัตติที่เขียนมีเจตนาด้อยค่า ใส่ร้ายป้ายสีแล้ว ญัตติยังไม่แสดงข้อมูลหลักฐานอะไร เป็นการเขียนแบบน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง น้ำลายท่วมสภาเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็จะตีกินแถลงข่าวใส่ร้าย ไม่มีหลักฐานอะไรใหม่ เป็นการกล่าวหาแบบเดิมๆ ซึ่งคณะทำงานของเราจะทำหน้าที่มอนิเตอร์การอภิปรายของฝ่ายค้าน ไม่ให้ทำอะไรเสมือนหนึ่งเป็นการใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ เราอยากป้องปรามฝ่ายค้านว่าอะไรที่เป็นการกล่าวหาเท็จอย่าบิดเบือน แต่อะไรที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้องก็เอาหลักฐานมาแสดงกัน เพราะถ้าใส่ร้ายบิดเบือนกลั่นแกล้งกัน หรือโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จในโซเชียลมีเดีย ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย" ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ในฐานะประธานการประชุมวิปรัฐบาลเพื่อกำหนดท่าทีการอภิปราย กรอบเวลา การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ในเบื้องต้นได้หารือกับหัวหน้าวิปทุกพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งได้กำหนดกรอบแนวทางไปในทิศทางเดียวกันโดยจะมีฝ่ายประท้วงเพื่อดูว่าจะมีการอภิปรายออกนอกกรอบข้อบังคับหรือไม่ ส่วนกระแสพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจเหตุถูกลอยแพ จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นปัญหาหรือไม่นั้น รัฐบาลต้องยืนหยัดให้ใจมั่นคง แน่วแน่ ซึ่งตนได้คุยกับทุกพรรคแล้ว ยืนยันว่ารักทุกคนเท่ากัน ขณะที่กระแสข่าวโหวตสวน ก็มองว่ายังไม่ถึงวันเวลา รวมทั้งเรื่องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพลังประชารัฐก็ยังไม่มีการพูดถึงแต่อย่างใด ขอให้รอผ่านการอภิปรายไปก่อน ทุกอย่างเป็นแค่ข่าววิเคราะห์การเมืองของแต่ละช่องเท่านั้น ขอย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังรักกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ 3 โครงการ ในการอภิปรายฯคือ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องการทางอากาศ ระยะที่ 7 ( N-SOC C2) โครงการพัฒนาการป้องกันฐาน ที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นพบว่าการจัดหายุทโธปกรณ์ครั้งนี้ มีความไม่ชอบมาพากลหลายซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบในการบริหารงานที่บกพร่อง ผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ และอาจปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในครั้งนี้ ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเตรียมความพร้อมก่อนการอภิปรายฯโดยกำชับ ส.ส.ทุกคนต้องปฏิบัติตามติพรรคอย่างเคร่งครัด คือต้องลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน และหาก ส.ส.ฝ่าฝืนไม่มาประชุมเพื่อลงมติ หรือลงมติที่ผิดไปจากนโยบายของพรรค พรรคถือว่าสมาชิกผู้นั้นกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นให้พ้นจากสมาชิก โดยพรรคจะดำเนินการตามข้อบังคับพรรคอย่างเด็ดขาด วันเดียวกัน ที่บ้านทรงไทย หลักสี่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมเงินสด 1 ล้านบาท ใส่พานรอ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ตามที่ได้นัดกันไว้ในเวลา 11.00 น. เพราะตนเคยท้าว่าหากไฮโซลูกนัทตาบอดจริง ยินดีที่จะจ่ายเงินสดให้ 1 ล้านบาท จึงได้เตรียมเงินสด 1 ล้านบาท ไว้ ขณะที่ไฮโซลูกนัทประกาศว่าจะนำเช็คเงินสด 10 ล้านบาท มาวางเพื่อพิสูจน์ความจริงเช่นกันว่าตาบอดหรือไม่ และถ้านายธนัตถ์ไม่เดินทางมาพร้อมเงินสด 10 ล้านบาท ถือว่าเป็นหมา ต่อมา เมื่อเวลา 12.40 น. นายธนัตถ์ ได้เดินทางมาพบที่บ้านทรงไทย หลักสี่ แต่นายธนัตถ์ได้นำเช็ค 10 ล้านมาวาง ทำให้นายสิระเกิดอาการไม่พอใจ พร้อมระบุ ตนไม่ใช่เพื่อนเล่นของนายธนัตถ์ เพราะตามที่ตกลงคือนำเงินสด 10 ล้าน มาวางซึ่งการทำแบบนี้ ทำให้ตนเสียเวลาทำงาน จึงไม่ขอรับเช็ค เพราะมีราคาเพียงแค่ 10 บาท ในการซื้อสมุดเช็ค จากนั้นนายสิระได้เดินทางออกจากบ้านทรงไทยไปทันที ด้าน นายธนัตถ์ กล่าวยืนยันว่าใบรับรองแพทย์เป็นของจริง ตาบอดจริง ไม่ได้โกหกใคร ส่วนที่เขียนระบุอาการที่สั้นถือเป็นคำที่ใช้สากลทั่วโลก ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมมวลชน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจ และให้ตำรวจยุติใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม