The Angels’s Day-Off! “บิ๊กโจ๊ก หวานเจี๊ยบ” นำทีมปฏิบัติการหักปีกนางฟ้า ทลายยกแก๊ง Hells Angels Pattaya จับกุม 8 ต่างชาติระบุพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง นำกำลังตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธจำนวนมาก สั่งเฉียบเพิกถอนใบอนุญาต วีซ่าถาวร พร้อมดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศ วันที่ 6 ธ.ค.60 ที่หน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสันติบาล ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และ สภ.หนองปรือ ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานบูรณาการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่เมืองพัทยาในบ้านพักสุดหรูพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมทั้งสิ้น 5 จุด ทั้งนี้ สามารถควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง ได้ทั้งสิ้น 4 ราย แยกเป็นชาวออสเตรเลีย 3 รายและชาวแคนาดา 1 ราย โดยสามารถตรวจยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. อาวุธปืน บีบีกัน พร้อมเครื่องกระสุน และอาวุธมีดชนิดๆต่างๆเป็นจำนวนมาก รวมทั้งตรวจยึดรถยนต์เก๋งสปอร์ตยี่ห้อ ออร์ดี้ 1 คัน ฟอร์ด GT 315 อีก 1 คัน ก่อนนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจ DNA ทั้งตัวบุค คล และของกลางเพื่อหาจุดเชื่อมโยงในคดีต่างๆ นอกจากนี้จากการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของกลุ่มคนดังกล่าวพบมีสารเสพติดประเภทโคเคนเป็นสีม่วงจำนวน 2 ราย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. กล่าวว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตรวจค้นกลุ่ม เป้าหมายซึ่งเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ชื่อว่าแก๊ง Hells Angels ที่พบว่ามีชาวต่างชาติบางส่วนที่อยู่ในกลุ่มนี้แก๊งนี้แอบแฝงเข้ามาในคราบนักท่องเที่ยว และมีพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งเรื่องของการข่มขู่ ฟอกเงิน ยาเสพติด และค้ามนุษย์ เนื่องจากกลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยมีคดีฆ่าชาวออสเตรเลียในแก๊งฝังดินเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งคนพวกนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทย แต่งงานกับหญิงไทย โดยไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ปรากฏว่ามีบ้านหลังโต รถหรูหรา เงินใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย จึงบูรณาการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปิดล้อมจับกุม เพื่อให้ปัญหาอาชญากรข้ามชาติที่แฝงตัวเข้ามาแสวงหาประโยชน์ในทางไม่ชอบหมดไป โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างเมืองพัทยา อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายของ “ปฏิบัติการหักปีกนางฟ้า” ในครั้งนี้มีทั้งหมดจำนวน 8 ราย ซึ่งปัจจุบันได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาต และวีซ่าของทั้งหมดแล้ว โดยในจำนวนนี้มี 1 รายที่หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ขณะที่อีก 3 รายยังหลบซ่อนตัวอยู่ใน กทม. ขณะที่อีก 4 รายที่ถูกควบคุมตัวนั้นพักอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยการดำเนินคดีนั้นในส่วนของการกระทำความผิดเรื่องยาเสพติด 2 ราย จะนำส่งดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาเพื่อรับโทษในประเทศก่อน จากนั้นจึงจะผลักดันตัวออกนอกราชอาณาจักร ขณะที่ในส่วนที่เหลือได้นำตัวส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรอผลักดันออกนอกราชอาณาจักรทันที พร้อมจัดทำ “แบล็คลิสต์” ทั้งหมดให้เป็นบุคคลต้องห้ามไม่ให้กลับเข้ามาได้อีกต่อไป พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่ายอมไม่ได้ที่จะเห็นกลุ่มคนที่มีเบื้องหลังในการกระทำความผิดแล้วเข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างเชิดหน้าชูตา ไม่มีงานทำแต่อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่โตและหรูหรา ต้องไม่ได้ยินเสียงปืนในเมืองพัทยาจากบุคคลเหล่านี้โดยเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้พวกกระทำความผิดเหล่านี้มาขี่มอเตอร์ไซค์ฮาเลย์แบบสบายใจอยู่ในเมืองพัทยาด้วย หลังจากนี้จะทำการตรวจดีเอ็นเอทั้งในของกลางและรถยนต์ที่ที่ตรวจยึด รวมถึงตรวจดีเอ็นเอภรรยาคนไทยว่ามีส่วนเกี่ยวหรือไม่ต่อไปด้วย