เมื่อวันที่ 13 ส.ค.น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางรอดของประเทศต้องทำตามพี่โทนี่เท่านั้น ก่อนชีวิตคนไทย และประเทศไทยจะทิ้งตัวลงเหวทยอยตาย ทั้งการตายด้วยโรคโควิด พิษเศรษฐกิจ ขาดความมั่นคงในชีวิต เด็กอนาคตมืดมนไร้การแก้ปัญหา ผู้นำลอยตัวปล่อยเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชน จบเห่ สิ่งที่เราคิดว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นเริ่มคืบคลานมาแค่เอื้อม นั่นคือ การตายของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องมาเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เขาเหล่านั้นล้วนฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว โดยเฉพาะรายล่าสุด หมอแอ้ม-นาวาอากาศเอกหญิง แพทย์หญิงสรัญยา ฬาพานิช บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าของ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ที่ต้องมาเสียชีวิตเมื่อวานที่ผ่านมา และที่หนักไปกว่านั้นก่อนหน้าที่หมอแอ้มเสียชีวิต คุณแม่หมอแอ้มเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ตามด้วยคุณพ่อเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมด้วยโรคโควิด ทำให้นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช น้องชายของหมอแอ้ม ต้องออกมาส่งเสียงผ่านตัวหนังสือสื่อดังๆ ไปยังคนในรัฐบาลและผู้รับผิดชอบในเวลานี้ว่า เขามีสิทธิที่จะพูดความรู้สึก และความต้องการที่เห็นสถานการณ์โควิดในประเทศปัจจุบันนี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังสำหรับการนำเข้าวัคซีนที่ยอมรับในต่างประเทศมามากที่สุดเท่าที่ทำได้ในทุกๆ ทาง โดยไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์ผ่านหน่วยงานรัฐให้ทัน มันถึงเวลาที่ควรแก้บางกฎ เพื่อให้คนไทยได้วัคซีนที่มาตรฐาน ที่จะพอป้องกันตัวเองได้จากโรคโควิด-19 ได้หรือยัง
วันนี้ถ้ารวมจำนวนการเสียชีวิตของประชาชนสะสม 6,848 คน มีจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้น 23,418 ราย และการที่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่มีเสียงใดๆ ออกมาแสดงถึงความรับผิดชอบจากผู้บริหารประเทศอย่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการศูนย์ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เลย ยังไม่รวมยอดผู้ที่ต้องเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากการป่วยและพิษเศรษฐกิจอีกจำนวนนับไม่ถ้วน พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ตอบเรื่องที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ุ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ถามเรื่องจะล็อกดาวน์ถึงเมื่อไหร่ วัคซีนจะมาเมื่อไหร่ จะกระจายการฉีดครบเมื่อไหร่ เยียวยาประชาชนเป็นอย่างไรเพียงพอหรือไม่ คนจะเจ็บจะตายเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร่ เศรษฐกิจจะฟื้นอย่างไร ถ้าไม่ตอบหรือตอบไม่ได้ แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่าปล่อยประชาชนตามยถากรรม แล้วจะเรียกว่าอะไร เสียงร้องไห้จากความสูญเสียคนสำคัญในครอบครัวดังลั่นทุกพื้นที่ของประเทศไทย พวกท่านยังคงนิ่งไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ และยังเวิร์คฟอร์มโฮมได้ต่อ ท่านเป็นคนที่เกินคนจริงๆ ไร้หัวใจ ไร้สำนึกรับผิดชอบ
น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่าวันนี้นอกเหนือจากการจัดวัคซีนคุณภาพดีๆ มาให้ประชาชนไม่ได้ ด้านเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนกำลังจะพัง ท่านทำเป็นอย่างเดียวคือการสั่งล็อกดาวน์ที่ไร้การวางแผน ไม่ได้มองดูความลำบากและความเดือดร้อนของประชาชนเลย ถ้าท่านกลัวโควิด ท่านต้องสั่งวัคซีนคุณภาพดีมาฉีดให้ประชาชนให้มากที่สุด แต่สิ่งที่ท่านทำคือประชาชนเข้าถึงวัคซีนยาก ทำไมตอนเลือกตั้งท่านสามารถตรวจสอบได้ว่าบ้านไหนมีคนมีสิทธิเลือกตั้งกี่คน เอาวิธีการมาใช้กับการฉีดวัคซีนป่านนี้คนฉีดกันทั้งประเทศแล้ว แต่ที่มันวุ่นวายวันนี้เหตุเพราะวัคซีนไม่พอ และที่มีอยู่คุณภาพไม่พอกับการคุ้มครองชีวิตของประชาชน ประชาชนจึงต้องทยอยตาย ความเดือดร้อนเรื่องโรคร้ายยังไม่ทันหาย พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจกำลังปล่อยให้ประชาชนทยอยตายด้วยพิษเศรษฐกิจต่อ เมื่อสถาบันการคุ้มครองเงินฝาก ปรับลดวงเงินคุ้มครองเหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชี ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ฝากส่วนใหญ่ของประเทศการคุ้มครองวงเงินจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสถาบันการเงินปิดกิจการ หรือโดนเพิกถอนใบอนุญาต คนที่ไม่มีเงินและคนที่มีเงินฝากไม่ถึง 1 ล้านบาทไม่ตกใจ แต่สำหรับผู้ที่มีเงินฝากในบัญชีจำนวนมากหลอนแน่ รัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย อย่าได้มองเฉพาะปัจจุบันที่สถาบันการเงินยังมั่นคง แต่ลองมองไปอนาคตเหมือนคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้ ถ้าไม่โกหกตัวเองก็จะต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจจะทรุดหนักลงอีก หนี้เสียจะมากขึ้น ถึงตอนนั้นจะยังมั่นคงอีกหรือไม่ รัฐบาล กระทรวงการคลัง และ ธปท. กล้ายืนยันหรือไม่ว่าอนาคตยังคงมั่นคง ถ้ายืนยันได้ว่ามั่นคง การลดคุ้มครองก็ไม่เห็นต้องลด นอกจากจะไม่มั่นใจเท่านั้น รัฐบาลต้องหัดคาดการณ์ล่วงหน้าว่าเศรษฐกิจจะยิ่งแย่ หนี้เสียจะยิ่งมาก กล้าปฏิเสธไหม แล้วถึงเวลานั้น จะมีปัญหาความเชื่อมั่นในธนาคารหรือไม่ ต้องรอให้คนแห่ไปถอนแล้วค่อยคิดหรือ ถึงเวลานั้นไม่มีเงินหมุนเวียน ท่องไว้เลยว่าพัง พังทั้งประเทศ
"ยิ่งเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งใช้กำลังและความรุนแรงเป็นเครื่องมือในการจัดการกับผู้ชุมนุมโดยมิได้เป็นไปตามหลักการที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เช่น การยิงกระสุนยางจากพื้นที่สูง การยิงโดยมุ่งเข้าใส่ตัวบุคคล การยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในที่ชุมนุมและพื้นที่ของชุมชนโดยไม่ใส่ใจต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้คน การยั่วยุผู้ชุมนุมให้เกิดความโกรธแค้น การรุมกระทืบผู้ชุมนุม การกระทำของผู้ชุมนุมไม่เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเพื่อเป็นการตอบโต้ได้ตามอำเภอใจ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ทำหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การใช้ความรุนแรงในลักษณะเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่งในห้วงเวลาปัจจุบัน ท่านต้องหยุดใช้เจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน ถึงเวลาที่ท่านต้องออกไป เพราะ หมดสภาพ เละทุกอย่าง เหมือนเป็นศพเดินได้ไปแล้ว อย่าฝืนทนต่อไปอีกเลย เพราะประชาชนไม่สามารถฝืนทนกับความอดอยาก ความหวาดกลัว กับคนไร้วิญญาณขาดความรับผิดชอบต่อความเป็นความตายของประชาชนเช่นนี้รีบ คืนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ประชาชน แล้วรีบไปก่อนที่อนาคตของประเทศไทยจะมืดดำไปกว่านี้" นางสาวตรีชฎา กล่าว