ขอนแก่นเปิดศูนย์พักคอยแทบชานเมือง รับคนขอนแก่นกลับบ้านอย่างถูกต้องปลอดภัย มีไวไฟให้ใช้งานฟรี พร้อมอุปกรณ์ยังชีพครบถ้วน ขณะที่ สสจ.เผยผู้ป่วยกลับบ้านโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยเฉพาะการขาดออกซิเจน วอนเข้าระบบอย่างถูกต้องหากไม่ไหวแวะ รพ.ได้ทุกแห่ง
เมื่อเวลา 11.30 วันที่ 11 ส.ค.2564 นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแกน พร้อมด้วยนายสุวรรณ ไตรมาลัย ประธานสภา อบต.ท่าพระ และนายวิสิฐ จันทะรี ปลัด อบต.ท่าพระ รักษาการ นายก อบต.ท่าพระ นำทีมแพทย์ และพยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า จาก รพ.สิรินธร และ รพ.สต.หนองบัวดีหมี ต.ท่าพระ ตรวจสอบความพร้อมขั้นตอนสุดท้ายของศูนย์พักพิง อบต.ท่าพระ ที่ได้จัดตั้งขึ้นบริเวณภายในห้องประชุมเอนกประสงค์ อบต.ท่าพระ สำหรับการใช้ในการกักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดกลุ่มเสี่ยงสีแดงเข้ม ตามขั้นตอนของการส่งต่อผู้ป่วยและประชาชนที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้ม ที่ให้ท้องถิ่นนั้นได้ดำเนินการจัดตั้ง โดยคณะฯได้ทดสอบการรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ รวมไปถึงผู้ที่ต้องกักตัว 14 วัน ตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้คณะทำงานได้เข้าใจในขั้นตอนและการดำเนินงานอย่างรัดกุมตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์พักพิง อบต.ท่าพระ จัดอยุ่ในเขตชานเมืองของ เขต อ.เมืองขอนแก่น ที่สามารถรองรัยผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหัดสีแดเข้ม ที่ได้มีการประสานงานมายังผู้นำชุมชน ,อำเภอ หรือ รพ.ในพื้นที่ เพื่อขู่การกักตัว ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยสามารถรองรับได้ในเบื้องต้น 20 คนและขณะนี้ได้มีการติดต่อที่จะเข้ารับการกักตัวที่ศูนย์ฯแห่งนี้แล้ว 2 ราย ดังนั้นการซักซ้อมขั้นตอนการดำเนินงาน ทีมแพทย์ พยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่รับผิดชอบศูนย์พักพิงนุดนี้จะต้องทำงานกันอย่างรัดกุม รอบคอบและปลอดภัย ซึ่งศูนย์ฯแห่งนี้ นอกจากจะดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวดแล้ว ยังคงมีการให้บริการฟรีอินเตอร์เนต,รวมทั้งการจัดอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆอย่างครบถ้วน มียาสามัญประจำบ้าน มีเครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วให้กับทุกคน มีหน้ากาอนามัย เจลแอลกอฮอล์ อาหารให้บริการ 3 มื้อ โดยจะรับเฉพาะประชาชนในพื้นที่ ต.ท่าพระ ในเบื้องต้นเท่านั้น และห้ามสูบบุหรี่หรือเล่นการพนัน และของฝากต่างๆจากญาติเจ้าหน้าที่จะตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดทุกราย ตามระเบียบและข้อบังคับที่กำหนดอย่างเข้มงวด
ขณะที่ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ยังคงขอความร่วมมือให้ผู้ที่เดินทางกลับขอนแก่น ทั้งที่ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือเดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดกลุ่มเสี่ยงสูงสีแดง ที่ให้มีการรายงานตัว หรือมีการประสานงานมายัง รพ.ปลายทาง หรือชุมชนให้ชัดเจนเพื่อจัดระบบการรับและส่ง ตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่วันนี้มียอดสะสมถึง 25 ราย จากการตรวจสอบพบว่าหลายรายประสงค์ที่จะเดินทางกลับมารักษาที่บ้าน หรือมีความประสงค์จะมารักษาตัวที่ขอนแก่นและมาเอง โดยไม่มีการแจ้งใดๆกับทางเจ้าหน้าที่หรือชุมชน
“ เหตุการณ์ล่าสุดที่พบคือที่เจ้าหน้าที่ รพ.บ้านไผ่ ได้รับแจ้ง จากศูนย์ฉุกเฉินว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านเข้ามาในพื้นที่และมีค่าออกซิเจนต่ำ ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ผู้ป่วยที่เดินทางผ่านขอนแก่นมีการประสานงานร่วมกัน รพ.ฯและศูนย์สั่งการโดยตลอด เพราะค่าออกซิเจนเป็นสิ่งที่สำคัญของผู้ป่วย ดังนั้นหากผู้ป่วยหรือผู้ทีเดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยงสูงสีแดงเข้ม หากมีการส่งต่อตามระบบ ก็จะรับทราบถึงระยะทางและการเดินทางที่กำหนด แต่หากเดินทางมาเองโดยไม่มีการแจ้งข้อมูลใดๆเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ว่าป่วยอยู่ในอาหารระดับใด ดังนั้นหากไม่มีเครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้วติดมาด้วย หากพบว่ามีอาการทรุดหนักหรือไม่ไหว ขอให้รีบเข้ารับการตรวจที่ รพ.ฯระหว่างทาง จุดใดก็ได้เพื่อให้การส่งต่อผู้ป่วยนั้นเข้าสู่ระบบและไม่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา”
ขณะที่ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ยังคงขอความร่วมมือให้ผู้ที่เดินทางกลับขอนแก่น ทั้งที่ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือเดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดกลุ่มเสี่ยงสูงสีแดง ที่ให้มีการรายงานตัว หรือมีการประสานงานมายัง รพ.ปลายทาง หรือชุมชนให้ชัดเจนเพื่อจัดระบบการรับและส่ง ตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่วันนี้มียอดสะสมถึง 25 ราย จากการตรวจสอบพบว่าหลายรายประสงค์ที่จะเดินทางกลับมารักษาที่บ้าน หรือมีความประสงค์จะมารักษาตัวที่ขอนแก่นและมาเอง โดยไม่มีการแจ้งใดๆกับทางเจ้าหน้าที่หรือชุมชน
“ เหตุการณ์ล่าสุดที่พบคือที่เจ้าหน้าที่ รพ.บ้านไผ่ ได้รับแจ้ง จากศูนย์ฉุกเฉินว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านเข้ามาในพื้นที่และมีค่าออกซิเจนต่ำ ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ผู้ป่วยที่เดินทางผ่านขอนแก่นมีการประสานงานร่วมกัน รพ.ฯและศูนย์สั่งการโดยตลอด เพราะค่าออกซิเจนเป็นสิ่งที่สำคัญของผู้ป่วย ดังนั้นหากผู้ป่วยหรือผู้ทีเดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยงสูงสีแดงเข้ม หากมีการส่งต่อตามระบบ ก็จะรับทราบถึงระยะทางและการเดินทางที่กำหนด แต่หากเดินทางมาเองโดยไม่มีการแจ้งข้อมูลใดๆเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ว่าป่วยอยู่ในอาหารระดับใด ดังนั้นหากไม่มีเครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้วติดมาด้วย หากพบว่ามีอาการทรุดหนักหรือไม่ไหว ขอให้รีบเข้ารับการตรวจที่ รพ.ฯระหว่างทาง จุดใดก็ได้เพื่อให้การส่งต่อผู้ป่วยนั้นเข้าสู่ระบบและไม่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา”