วันที่ 7 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครอง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งจุดตรวจร่วมด่านประชารัฐด่านสิงขร หรือด่านตีนเป็ด บนถนนสายเพชรเกษม -ด่านสิงขร หมู่ที่ 6 ต.คลองวาฬ พบรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ไม่ประจำทางสีส้ม-เขียว ทะเบียน 30- 5714 กทม. วิ่งผ่านมา จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบพบเป็นรถของบริษัทนครชัยทัวร์ มีนายพีระ เกิดสมบูรณ์ อายุ 62 ปี เป็นคนขับ บนรถมีแรงงานชาวพม่า 42 คน เป็นชาย 22 คน ผู้หญิง 18 คน เด็กหญิงอายุ 4 ขวบ และเด็กชายอายุ 1 เดือน ทั้งหมดมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง จึงควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดไปที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)ที่ 146 เพื่อตรวจสอบเอกสารพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ตรวจหาเชื้อโควิด 19
สอบสวนนายพีระขับรถโดยสาพบว่าที่ผ่านมาติดเชื้อโควิดแต่รักษาหายแล้วให้การว่า ได้รับค่าจ้าง 12,000 บาท จากนายหน้าใน จ.สมุทรสาคร ให้ขับรถพาชาวพม่าทั้งหมดมาส่งที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เพื่อเดินทางข้ามชายแดนกลับประเทศ เนื่องจากโรงงานปิดไม่มีงานทำ เสียค่าใช้จ่ายรายละ 10,000 บาท แต่จากการสืบสวนทางลับทราบว่าแรงงานทั้งหมดมีนายทุนรวบรวมมาจากพื้นที่ กทม. จ.นนทบุรี จ.ฉะเซิงเทรา จ.สมุทรปราการ จ.ราชบุรี จากนั้นนำมาพักที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อได้ครบตามใบสั่งจะใช้รถทัวร์โดยสาร 2 ชั้นขนย้ายเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ โดยผ่านด่านตรวจถาวรบนภนนเพชรเกษมที่ อ.สามร้อยยอด แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น
จากนั้นรถทัวร์ดังกล่าวได้ตระเวนแวะรับแรงงานเถื่อน ที่หนีเข้าฝั่งไทยผ่านช่องทางธรรมชาติที่นายทุนแอบซุกไว้ตามบ้านพักของนายหน้า ในพื้นที่จุดผ่อนปรนด่านสิงขร เพื่อไปทำงานในโรงงานพื้นที่ภาคใต้ โดยอ้างว่าเคลียร์ด่านตรวจรายเดือนทุกหน่วยแล้วตลอดเส้นทาง จึงแจ้งข้อหานายพีระฝ่าฝืนสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหสถาน ในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. และกระทำความผิดฐานเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว สำหรับแรงงานชาวพม่า แจ้งข้อหาฝ่าฝืนสถานการณ์ฉุกเฉินและเป็นแรงงานต่างด้าวเดินทางออกนอกพื้นที่ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นนำตัวส่ง สภ .คลองวาฬ ดำเนินคดีต่อไป
สอบสวนนายพีระขับรถโดยสาพบว่าที่ผ่านมาติดเชื้อโควิดแต่รักษาหายแล้วให้การว่า ได้รับค่าจ้าง 12,000 บาท จากนายหน้าใน จ.สมุทรสาคร ให้ขับรถพาชาวพม่าทั้งหมดมาส่งที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เพื่อเดินทางข้ามชายแดนกลับประเทศ เนื่องจากโรงงานปิดไม่มีงานทำ เสียค่าใช้จ่ายรายละ 10,000 บาท แต่จากการสืบสวนทางลับทราบว่าแรงงานทั้งหมดมีนายทุนรวบรวมมาจากพื้นที่ กทม. จ.นนทบุรี จ.ฉะเซิงเทรา จ.สมุทรปราการ จ.ราชบุรี จากนั้นนำมาพักที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อได้ครบตามใบสั่งจะใช้รถทัวร์โดยสาร 2 ชั้นขนย้ายเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ โดยผ่านด่านตรวจถาวรบนภนนเพชรเกษมที่ อ.สามร้อยยอด แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น
จากนั้นรถทัวร์ดังกล่าวได้ตระเวนแวะรับแรงงานเถื่อน ที่หนีเข้าฝั่งไทยผ่านช่องทางธรรมชาติที่นายทุนแอบซุกไว้ตามบ้านพักของนายหน้า ในพื้นที่จุดผ่อนปรนด่านสิงขร เพื่อไปทำงานในโรงงานพื้นที่ภาคใต้ โดยอ้างว่าเคลียร์ด่านตรวจรายเดือนทุกหน่วยแล้วตลอดเส้นทาง จึงแจ้งข้อหานายพีระฝ่าฝืนสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหสถาน ในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. และกระทำความผิดฐานเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว สำหรับแรงงานชาวพม่า แจ้งข้อหาฝ่าฝืนสถานการณ์ฉุกเฉินและเป็นแรงงานต่างด้าวเดินทางออกนอกพื้นที่ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นนำตัวส่ง สภ .คลองวาฬ ดำเนินคดีต่อไป