เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก และเครือข่ายในกลุ่มโซเชียลออนไลน์รวม10 เพจคนรุ่นใหม่ ให้มาร่วมม็อบในลักษณะปลุกระดมเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค.เพื่อนัดบุกพระบรมมหาราชวังว่า เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ตามที่คนเคยบอกว่า เดือนส.ค.หวั่นใจว่าจะมีเหตุ ขัดแย้งรุนแรง ซึ่งทางรัฐบาลเองได้ประชาสัมพันธ์เตือนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองของเด็กเยาวชน และผู้จะเข้าร่วมชุมนุมทราบแล้วว่า อย่าซ้ำเติมสถานการณ์ประเทศ ที่กำลังประสบปัญหาแพร่ระบาดของโควิด -19 เพราะยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19ในไทยทะลุ 2หมื่นคน มีผู้เสียชีวิตใกล้ทะลุ 200รายต่อวันแล้ว ดังนั้นการจะใช้สิทธิเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทำได้ ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญคืออย่าละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นและสังคมส่วนรวมด้วย อีกทั้งเมื่อดูจากหลายเพจของกลุ่มผู้ชุมนุมที่โพสต์ปลุกระดมแล้วว่า ส่วนตัวเห็นว่า มีเจตนาพุ่งเป้าไปที่สถาบันเบื้องสูง ที่ส่อให้เห็นว่า ต้องการ ก้าวล้วง จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ และที่น่ากังวลกว่านั้นคือ มีกลุ่มพี่น้องประชาชนคนไทย และกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ หรือกลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการจาบจ้วงสถาบันฯ ยืนยันแล้วว่า กลุ่มนี้จะเข้าร่วมสังเกตการณ์ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่ชุมนุม จึงด้วยเกรงว่า ที่สุดอาจมีการปะทะ หรือเกิดเหตุบานปลายม็อบชนม็อบ โดยผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการให้เกิดภาพการปะทะเพื่อดิสเครติดรัฐบาล หากเกิดความสูญเสียและทวีความขัดแย้งร้าวลึกในสังคมไทยยิ่งขึ้น ที่สุด มันไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทยโดยรวม “โดยเฉพาะการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก จะกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดใหม่ของไวรัสโควิด-19 เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ก็จะสร้างภาระให้บุคลากรการแพทย์มากยิ่งขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ของประเทศให้ถอยหลัง คนในสังคมไทยไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอยากให้ทุกฝ่ายยั่งคิด ยั้งทำ คิดถึงส่วนรวมให้มากๆ โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ประกาศตลอดว่ารับฟังเสียงประชาชน หากรับฟังจริงก็ควรเสียสละลาออก และเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถ ที่สังคมเชื่อมั่น เข้ามาบริหารแก้ไขวิกฤตโควิด วิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองครั้งนี้ เหมือนที่ท่านเคยขอให้นักการเมืองเสียสละลาออกจากการคุมอำนาจ ก่อนที่ท่านจะทำการรัฐประหาร หากรักประเทศชาติ บ้านเมืองจริง ท่านทำได้หรือไม่ หรือแค่สวยให้ดูดีเท่านั้น”