ครู - อาจารย์จากทั่วประเทศ ร่วมศึกษาสืบสานพระราชดำริ ตลอดระยะเวลา70ปีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศไว้เป็นจำนวนมาก ครอบคลุมในทุกสาขาการพัฒนา และวิถีการดำเนินชีวิตของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าในทั่วภูมิภาคของประเทศ อีกทั้งแผ่ไพศาลเป็นคุณูปการไปยังประชาชนในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในนานาประเทศ จนเป็นที่ประจักษ์ของนานาอารยประเทศ แนวพระราชดำริทั้งหลายนี้ นับเป็นพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถของพระองค์ที่ทรงผสมผสานระหว่างหลักวิชาการ ประสบการณ์ และบริบทด้านแวดล้อม เกิดเป็นหลักการทรงงาน หลักปรัชญา ทฤษฎีและแนวทางการพัฒนาในด้านต่างๆ ทรงวางรากฐานอยู่บนหลัก “ภูมิสังคม”เป็นประการสำคัญ อาทิ ได้พระราชทานหลักการทำการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่การเกษตรแบบเกื้อกูลระหว่างธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต โดยทรงเน้นย้ำเรื่องปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตคือน้ำ การพัฒนาปรับปรุงคุณภาพดินที่แตกต่างกันในแต่พื้นที่เช่นพระราชทานโครงการแกล้งดิน การปรับปรุงที่ดินที่เสื่อมสภาพให้สามารถมีคุณค่าใช้ประโยชน์ด้านการเพาะปลูกได้อย่างมีคุณภาพตลอดถึงฝายชะลอน้ำเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าสร้างความชุ่มชื้นเป็นที่พึ่งพิงของทรัพยากรธรรมที่มีชีวิตอื่นๆเช่นสัตว์นานาชนิดภายใต้การใช้ประโยชน์จากกลไกทางธรรมชาติและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนเป็นต้น ซึ่งเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับสรรเสริญและน้อมนำไปปฏิบัติใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร ที่จะทรงตั้งพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอดพัฒนา โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการบำบัดทุกข์ แก้ไขความเดือดร้อนให้กับปวงชนชาวไทยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร.)ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐทำหน้าที่ในการรับและสนองพระราชดำริด้านการพัฒนาจนก่อเกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 4,685 โครงการ กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อช่วยเหลือราษฎรและเป็นต้นแบบในการพัฒนารวมทั้งนำองค์ความรู้ไปเผยแพร่สู่สาธารณชนได้อย่างชัดเจนและยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดขยายผลและสร้างเครือข่ายในการสืบสานพระราชดำริให้บังเกิดความยั่งยืน สำนักงาน กปร.จึงจัดโครงการ “เครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริ”ขึ้น ซึ่งในปี พ.ศ. 2560 นี้เป็นรุ่นที่ 4ที่ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ ครู อาจารย์จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญที่จะเป็นกลไกในการถ่ายทอด ได้มีส่วนร่วมในการทำหน้าที่สืบสานและต่อยอดองค์ความรู้จากแนวพระราชดำริ การดำเนินงาน รวมถึงผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ซึมซับความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่ตั้งใจนำสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวันของตัวเองครอบครัวแล้วก็พร้อมที่จะถ่ายทอดขยายผลเป็นประโยชน์ไปสู่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระราชดำริ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาทด้านการพัฒนาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้แก่ ครู อาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วประเทศ ตลอดถึงการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในแนวพระราชดำริ ผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้ ครู อาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้ได้รับรู้รับทราบและมีความเข้าใจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมการมีส่วนร่วมในการทำหน้าที่เป็นเครือข่ายในการเผยแพร่และสืบสานพระราชดำริได้อย่างเหมาะสม ต่อเนื่องและชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในปี พ.ศ. 2560 นี้ จะมีคณะครู อาจารย์ จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศพร้อมผู้ร่วมงาน จำนวน 100 คนเข้าร่วมกิจกรรม โดยในกิจกรรมจะมีการฝึกอบรม ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษโดยนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการกปร.ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิและประสบการณ์จากการปฎิบัติหน้าที่สนองงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไปจนถึงการศึกษาดูงานในเขตพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งรุ่นที่ 4 ของปี2560จะได้สัมผัสพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในจังหวัดจันทบุรีและการปฏิบัติจริงณ บ้านเกษตรกรตัวอย่างที่ได้น้อมนำผลงานที่ผ่านการศึกษาทดลองจนประสบความสำเร็จแล้วจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ไปปฎิบ้ติใช้ โครงการ“เครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริ” รุ่นที่ 4 นี้จัดขึ้นระหว่างวันที่15-17 พย.ที่ผ่านมานี้ โดยเมื่อวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2560 เวลา 09.30 น. ณ อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ถนนอรุณอมรินทร์ ซอยอรุณอมรินทร์ 36 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานครนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริ รุ่นที่ 4 ได้ย้ำว่ามุ่งหวังให้เกิดเครือข่ายจากสถาบันการศึกษาทุกระดับการศึกษาทั่วประเทศ ที่จะทำหน้าที่ศึกษาเรียนรู้ แล้วซึมซับนำสู่การปฏิบัติด้วยตนเองขยายผลสู่ครอบครัวและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้อง คือการศึกษาเรียนรู้ซึมซับในหลักการทรงงาน พระราชดำริ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาทผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผ่านผลสำเร็จของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศที่น้อมแนวทางในการดำเนินชีวิต ในการประกอบอาชีพทุกสาขาอันได้แก่ได้พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือก็คือศาสตร์พระราชา โดยการลงไปสัมผัสพื้นที่จริง ลงมือทำจริง “จากนั้นนำไปประยุกต์คิด ประยุกต์ทดลอง ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ภูมิสังคมซึ่งองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วม “โครงการเครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริ”นี้สามารถนำไปปรับใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอน การพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ให้ตระหนักถึงคุณค่าแห่งองค์ความรู้ของการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งมีมากมายมหาศาล และความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า ไม้ พลังงาน และอาชีพ ตลอดรวมถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเองให้มีความมั่นคงในชีวิตอย่างสมดุลและสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมต่อไป” นั่นคือสาระที่สรุปได้ส่วนหนึ่งจากการบรรยายของเลขาธิการ กปร. ในหัวข้อ “สำนักงาน กปร. กับการสนองพระราชดำริ” กับครู อาจารย์ จากสถาบันการศึกษาระดับประถมศึกษาจากกรุงเทพมหานคร จำนวน 85 ท่าน ทำให้ครู อาจารย์ทุกตคนได้รับทราบถึงแนวพระราชดำริจากการบรรยาย แล้วได้ไปศึกษาถึงแนวพระราชดำริจากการเยี่ยมชมการดำเนินงานและลงมือปฏิบัติในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี ด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านการเกษตร ศึกษาดูงานด้านการปลูกพืช และมีส่วนร่วมในการเพาะชำผักสวนครัวและทำก้อนเห็ด ด้านป่าไม้ ศึกษาดูงานระบบนิเวศป่าชายเลน และมีส่วนร่วมในการเพาะชำกล้าไม้ป่าชายเลน ด้านปศุสัตว์ ศึกษาดูงานการเลี้ยงสัตว์ปีก และการทำอาหารสัตว์ ด้านการประมง ศึกษาดูงานการทำธนาคารปูไข่ และมีส่วนร่วมในการเขี่ยไข่ปู การทำซั้งเชือกบ้านปลา และทำอีแปะบ้านหอย และเรียนรู้จากศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริการเลี้ยงชันโรงและแปรรูปผลิตภัณฑ์ชันโรง โดยนายจักรชัย เสมสฤษดิ์ ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ กลุ่มผลิตเห็ดเศรษฐกิจครบวงจร โดย นายวีระ ศรีคงรักษ์ และศึกษาการทำสวนแบบผสมผสานให้มีคุณภาพและปลอดภัย โดย นายฉลวย จันทแสง โครงการเครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริ รุ่นที่ 4 ที่ครูอาจารย์เข้าร่วมจากแนวคิดของสำนักกปร.ที่มีจุดมุ่งหมายให้ครูอาจารย์ได้เรียนรู้ซึมซับปฏิบัติจริงในศาสตร์พระราชาแล้วเป็นต้นแบบถ่ายทอดขยายผล ทำหน้าที่สานต่อพระราชดำริและสร้างเครือข่ายของสถาบันการศึกษาสนองพระมหากรุณาธิคุณทุ่มเทเป็นกำลังทำงานถวายโดยถ่ายทอดพระราชปณิธานสู่ประชาชนคนไทยโดยเฉพาะเยาวชนเพื่อนำพาชีวิตสู่จุดหมายที่ดีงามคือประโยชน์สุข มีความสุขอย่างยั่งยืนด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯเป็นเครื่องมือนำทางถวายเป็นพระราชกุศล ด้วยสำนักงานกปร.ตระหนักว่าครูอาจารย์จะเป็นแม่แบบน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯหรือศาสตร์พระราชาที่ได้ไปศึกษาเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ ตนเองนำสู่การปฏิบัติที่บังเกิดผลบังเกิดความดีงามจริงแล้วนำถ่ายทอดปลูกฝังหล่อหลอมเยาวชนที่เป็นลูกศิษย์ให้เจริญงอกงามไปบนเส้นทางแห่งความสุขความดีงามตามที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรได้ทรงตั้งพระราชปณิธานไว้ ด้วยความเป็นผู้ทำหน้าที่อบรมบ่มนิสัยเยาวชนเพื่อเป็นคนดีมีคุณธรรมเป็นคนเก่งเพื่อชาติบ้านเมืองครูอาจารย์จะเป็นพลังส่วนหนึ่งที่สำคัญในการน้อมนำแนวพระราชดำริไปขยายผล เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป โดยสำนักงานกปร.นำคณะครูอาจารย์ที่เข้าร่วมไปยังพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดจันทบุรีคือศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ พื้นที่ภูมิสังคมจังหวัดจันทบุรี ณ เนินนางพญา ไปสัมผัสศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริพื้นที่รอบๆศูนย์ศึกษาฯดังที่เกริ่นข้างต้น คาดหวังว่าโครงการนี้จะทำให้ครู อาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ซึมซับถึงแนวพระราชดำริ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาทและหลักการทรงงานผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรที่ทรงมีต่อประชาชนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จะเป็นกำลังสำคัญในการสนองพระราชปณิธานก่อเกิดเป็นเครือข่ายในการสืบสานและถ่ายทอดแนวพระราชดำริ การดำเนินงานและผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปสู่ นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไป สำนักงาน กปร.