พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. โพสต์เฟซบุ๊คว่า กทม. เร่งดูแลผู้ป่วยโควิดด้วย BKK HI/CI Care โดย กทม.ได้ปรับวิธีการตรวจเชิงรุกโดยมีทีม CCRT ตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit ที่รู้ผลการตรวจเร็วขึ้น เพื่อแยกผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้มากที่สุดก่อน โดยผู้ที่มีผลตรวจจาก ATK เป็นลบสามารถกลับบ้านได้ แต่หากเป็นผู้เสี่ยงสูงแนะนำให้แยกตัวจากผู้อื่น แต่หากมีผลติดเชื้อจะส่งตรวจ Rt-PCR ซ้ำอีกที่จุดตรวจเดียวกัน หรือส่งเข้าศูนย์พักคอย (Community Isolation :CI) แยกโซนเฉพาะผู้ที่มีผลจาก ATK ซึ่งผู้มีผลติดเชื้อจะต้องเซ็นยินยอมในใบ Informed consent จากนั้นจะมีหน่วยตรวจ Rt-PCR มาตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งที่ศูนย์พักคอย เพื่อให้ได้ผลยืนยันการติดเชื้อก่อนเข้าสู่ระบบการรักษา
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีผลตรวจยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อและต้องการแยกรักษาตัวอยู่ที่บ้าน (Home Isolation : HI) หน่วยเชิงรุกจะส่งข้อมูลเข้าระบบ BKK HI/CI Care หรือผู้ป่วยสามารถติดต่อเข้าระบบการรักษาได้ที่ โทรสายด่วน 1330 หรือสายด่วนโควิดเขต* ทุกเขต เพื่อที่จะได้รับการดูแลติดตามอาการจากแพทย์ และได้รับชุดอุปกรณ์ HI เครื่องวัดออกซิเจน ปรอทวัดไข้ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ โดยจะมีจิตอาสาส่งยาและอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้ออาหาร ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในระบบการรักษา และถ้าผู้ป่วยที่รักษาแบบ HI มีอาการรุนแรงขึ้น ตามคำวินิจฉัยจากหมอที่ดูแล จะนำส่งเข้ารักษาใน รพ.สนาม Hospitel หรือ รพ. ต่อไป
สำหรับผู้ที่มีผลการตรวจเป็นบวกจาก ATK ด้วยตนเองหรือจากสถานที่เอกชน จะต้องตรวจ ATK ซ้ำ โดยแจ้งผ่านสายด่วนโควิดเขต* หรือแจ้งที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อนัดคิวตรวจหาเชื้อก่อน จึงจะสามารถส่งตรวจซ้ำด้วย Rt-PCR ได้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะต้องถูกส่งต่อไปศูนย์พักคอยร่วมกับผู้สงสัยติดเชื้อรายอื่น
การตรวจหาเชื้อด้วย ATK เป็นการตรวจเพื่อให้ทราบว่าเป็นผู้ที่สงสัยที่จะติดเชื้อโควิด เพื่อเฝ้าระวังตัวเองและแยกตัวออกจากชุมชนและครอบครัว ก่อนตรวจหาเชื้อเพื่อยืนยันเป็นผู้ป่วยและเข้ารับการรักษาต่อไป
จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น การนำผู้ป่วยเข้ารักษาให้เร็วที่สุดเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อรักษาชีวิตของทุกคน ๆ และเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้ได้เร็วที่สุด