"ศบค."แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 18,901 ราย ตาย 147 ศพ พบเพิ่ม 4 คลัสเตอร์ใหม่ใน 3 จังหวัด ด้าน"บอร์ด สปสช."ไฟเขียวยา-วัคซีน-เวชภัณฑ์โควิดทุกรายการ อยู่ในสิทธิบัตรทอง จ่อจัดหาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,901 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 15,176 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 2,975 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 743 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 7 รายมาจากจีน สหรัฐอเมริกา ตุรกี ประเทศละ 1 ราย กัมพูชา และเมียนมา ประเทศละ 2 ราย โดยยังคงพบการเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เสียชีวิต 147 รายเพศชาย 84 ราย เพศหญิง 63 ราย อายุเฉลี่ย 34-99 ปี (ค่ากลาง 63 ปี) และเสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ส่วนใหญ่มาจากกทม. 55 ราย ขณะที่ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นตลอด
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 652,185 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 437,831 ราย เพิ่มขึ้น 18,590 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 5,315 ราย ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ 3,566 ราย, สมุทรปราการ 1,361 ราย, ชลบุรี 1,359 ราย, สมุทรสาคร 1,282 ราย, นนทบุรี 565 ราย, ปทุมธานี 465 ราย, นครราชสีมา 454 ราย, อุบลราชธานี 448 ราย, บุรีรัมย์ 405 ราย, สระแก้ว 382 ราย
นอกจากนี้ พบคลัสเตอร์ใหม่ 4 แห่ง กระจายใน 3 จังหวัด ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 64 ราย ได้แก่ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร โรงงานถุงพลาสติก พบติดเชื้อ 19 ราย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร บริษัทกระป๋องบรรจุภัณฑ์ พบติดเชื้อ 11 ราย อ.บางเลน จ.นครปฐม บริษัทคอนกรีตพบติดเชื้อ 10 ราย อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี โรงงานข้าวโพด พบติดเชื้อ 24 ราย
วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 มีมติเห็นชอบให้ยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจคัดกรอง ตรวจยืนยัน การดูแลรักษาที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ที่ถูกกำหนดโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หรือหน่วยงานที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มอบหมายให้กำหนดมาตรฐาน ทุกรายการเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามเกณฑ์การพิจารณาแบบ Green Channel เนื่องจากเป็นโรคระบาด ในภาวะเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้เพิ่มรายการยาฟาวิพิราเวียร์ในแผนการจัดหา เพื่อให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์จัดหาเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนในปี 2564 จำนวนไม่เกิน 27 ล้านเม็ด วงเงินไม่เกิน 891 ล้านบาท จากงบค่าบริการโควิด-19 และต่อเนื่องไปปี 2565 รองรับกรณีหน่วยบริการไม่สามารถหายาฟาวิพิราเวียร์ได้เพียงพอ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การพิจารณาให้รายการยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับโควิด-19 เหล่านี้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามเกณฑ์ Green Channel จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรอง ตรวจยืนยัน บริการดูแลรักษา รวมถึงการขาดแคลนยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์การระบาดของโรค
"ที่ผ่านมาเมื่อ สธ. ออกแนวทางหรือกติกาเรื่องโควิด-19 มาแล้ว แต่ยังอาจติดขัดปัญหาในการเข้าถึงบริการเหล่านั้น ทาง สปสช. จึงได้รับการประสานเพื่อหามาตรการที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้เพิ่มเติม วันนี้บอร์ด สปสช. จึงพิจารณาให้รายการทั้งหมด นับเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามเกณฑ์ของ Green Channel และให้เป็นหลักการเอาไว้เลย เพื่อไม่ต้องเข้ามาพิจารณาเป็นเรื่องๆ โดย สปสช. จะกำหนดหลักเกณฑ์ แนวทาง วิธีการจ่ายให้กับหน่วยบริการต่อไป"
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ ตามไกด์ไลน์ของ สธ. ได้กำหนดให้เริ่มใช้ยาในผู้ป่วยโควิด-19 โดยเร็วที่สุด ซึ่งมีปริมาณการใช้ประมาณ 50 เม็ดต่อผู้ป่วย 1 คน โดยขณะนี้ สธ. มีแผนจัดซื้อ ณ เดือน ก.ย. 2564 จำนวน 40 ล้านเม็ด ซึ่งคาดว่าอาจไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ยา ในส่วนนี้ สปสช. จึงเสนอขอเตรียมงบประมาณเพื่อจัดซื้อไว้จำนวนไม่เกิน 27 ล้านเม็ด ในวงเงิน 891 ล้านบาท โดยจะเพิ่มรายการในแผนการจัดหา เพื่อให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลราชวิถี จัดหาเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนในปี 2564 และต่อเนื่องไปปี 2565
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 199,595,039 ราย เสียชีวิต 4,248,886 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 35,895,980 ราย อันดับ 2 อินเดีย 31,725,399 ราย อันดับ 3 บราซิล 19,953,501 ราย อันดับ 4 รัสเซีย 6,312,185 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 6,151,803 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 42
ขณะที่ จีนสกัดการระบาดของโควิด-19 ครั้งใหญ่รอบหลายเดือน หลังพบการติดเชื้อใหม่ในชุมชน 55 คน หลังสายพันธุ์เดลตากระจายไปกว่า 20 เมืองมากกว่า 12 มณฑล โดยประชาชนหลายล้านคนถูกกักตัวอยู่ในบ้าน อาทิ เมืองจูโจว ในมณฑลหูหนาน ออกมาตรการล้อกดาวน์เข้มงวด สั่งประชาชนกว่า 1.2 ล้านคน อยู่บ้านไปจนถึง 3 วันข้างหน้า เมืองท่องเที่ยวจางเจียจี้ล็อกดาวน์ประชาชนทั้งหมด 1.5 ล้านคน