พ่อเมืองตาก สั่งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หลังมีข่าว สาธารณสุขเมียนมาล่ม อาจจะมีชาวเมียนมาหนี ตาย Covid-19. ลักลอบเข้ามาฝั่งไทย-เผยจะเร่งประชุมศูนย์สั่งการชายแดน เพื่อประเมินเหตุการณ์ ชี้หากรุนแรงจริงสั่งปิดชายแดนได้ทันที
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงกระแสข่าวทางโซเซียลและทางเน็ต ที่ระบุว่า ขณะนี้ระบบสาธารณสุขเมียนมาล่ม มีชาวเมียนมาติดเชื้อไวรัส Covid-19.จำนวนมากไม่ได้รับการรักษาและจะมีการอพยพหนีข้ามมาฝั่งชายแดนไทย ด้านจังหวัดตาก ว่า ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดน(ไทย-เมียนมา)จังหวัดตากได้มีการประชุมและประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่องและภายในสัปดาห์นี้ก็จะประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์เรื่องนี้ทันที ซึ่งศูนย์สั่งการชายแดนตากได้มีการทำงานแบบบูรณาการร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง-ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายความมั่นคง มาโดยตลอดและในช่วงนี้ ทหารก็มีการเข้มงวดอย่างเต็มที่ในการเฝ้าระวังป้องกันสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทำงานแบบเต็ม 100 และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ได้ดี
“การสั่งปิดพรมแดนนั้น เป็นอำนาจของศูนย์สั่งการชายแดนฯอยู่แล้วที่สามารถทำได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ต้องติดตามและประเมินสถานการณ์ให้ดีก่อน ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงยังทำหน้าที่ได้ดี มีการเข้มงวด กวดขัน จับกุม อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากมีการประเมินสถานการณ์ของคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดน แล้วมีมติออกมาอย่างไรก็จะทำทันที ซึ่งจะขอประชุมและหาข้อสรุปอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้” ผู้ว่าราชการจังหวัดตากในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนฯ กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วระบบสาธารณสุขของเมียนมาไม่ได้ล่ม ตามข่าวที่โซเซียลหรือชาวเน็ตระบุออกมา แต่จริงๆคือระบบสาธารณสุขของเมียนมามีน้อยหรือไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19. ที่แพร่กระจายรุนแรง เจ้าหน้าที่เมียนมาก็รับมือไม่ไหว สำหรับการอพยพข้ามแดนนั้นหากเป็นสภาวะการสู้รบมีสงครามเราสามารถรับได้ตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่หากเป็นเรื่องโรคระบาด เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่ต้องมาคุยหรือพิจารณาว่าจะเป็นแบบใด แต่สถานการณ์ปัจจุบันขอให้ประชาชนชาวไทยเชื่อในการทำงานการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งฝ่ายความมั่นคง ทหาร-ตำรวจ-ปกครองและสาธารณสุข
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงประเด็นที่มีพ่อค้าเมียนมา มีการสั่งซื้อถังอ๊อกซิเจนจากไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำเข้าประเทศ ว่าสินค้าถังออกซิเจน นั้นเท่าที่ทราบไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม สามารถ ซื้อขายได้ อย่างไรก็ตามหากไทยเริ่มขาดแคลนถังอ๊อกซิเจนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศห้ามส่งออก เราก็จะใช้มาตรการของความมั่นคงดำเนินการห้ามส่งออกทันที หากฝ่าฝืนก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
////////
“การสั่งปิดพรมแดนนั้น เป็นอำนาจของศูนย์สั่งการชายแดนฯอยู่แล้วที่สามารถทำได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ต้องติดตามและประเมินสถานการณ์ให้ดีก่อน ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงยังทำหน้าที่ได้ดี มีการเข้มงวด กวดขัน จับกุม อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากมีการประเมินสถานการณ์ของคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดน แล้วมีมติออกมาอย่างไรก็จะทำทันที ซึ่งจะขอประชุมและหาข้อสรุปอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้” ผู้ว่าราชการจังหวัดตากในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนฯ กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วระบบสาธารณสุขของเมียนมาไม่ได้ล่ม ตามข่าวที่โซเซียลหรือชาวเน็ตระบุออกมา แต่จริงๆคือระบบสาธารณสุขของเมียนมามีน้อยหรือไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19. ที่แพร่กระจายรุนแรง เจ้าหน้าที่เมียนมาก็รับมือไม่ไหว สำหรับการอพยพข้ามแดนนั้นหากเป็นสภาวะการสู้รบมีสงครามเราสามารถรับได้ตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่หากเป็นเรื่องโรคระบาด เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่ต้องมาคุยหรือพิจารณาว่าจะเป็นแบบใด แต่สถานการณ์ปัจจุบันขอให้ประชาชนชาวไทยเชื่อในการทำงานการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งฝ่ายความมั่นคง ทหาร-ตำรวจ-ปกครองและสาธารณสุข
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงประเด็นที่มีพ่อค้าเมียนมา มีการสั่งซื้อถังอ๊อกซิเจนจากไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำเข้าประเทศ ว่าสินค้าถังออกซิเจน นั้นเท่าที่ทราบไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม สามารถ ซื้อขายได้ อย่างไรก็ตามหากไทยเริ่มขาดแคลนถังอ๊อกซิเจนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศห้ามส่งออก เราก็จะใช้มาตรการของความมั่นคงดำเนินการห้ามส่งออกทันที หากฝ่าฝืนก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
////////