"เทพไท"โพสต์เฟซบุ๊กยก 6 ข้อเสียหายยุบสภาฯ พร้อมแนะ"บิ๊กตู่"ลาออกดีกว่า "วิษณุ"ชี้แต่งตั้ง"ปลัด มท."ข้ามห้วยในอดีตมีเยอะ ระบุต้องหารือนายกฯ ดูความเหมาะสม ความจำเป็น ขึ้นอยู่กับเจ้ากระทรวง ยัน"ครม."ไม่ได้ตีกลับ เหตุยังไม่ได้เสนอเข้ามา "จิรายุ"โหมโรงเปิดชื่อซักฟอกต้องร้องหือ เตือน"รมต.-ขรก."อย่าย่ามใจช่วยกันปกปิดข้อมูล
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า "อยากบอกลุงตู่ ถ้าต้องตัดสินใจทางการเมือง ลาออกดีกว่ายุบสภาฯ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลมีความล้มเหลวในการแก้ปัญหา และไม่สามารถรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ได้ในขณะนี้ จนทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเกิดขึ้นในหมู่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และมีการเคลื่อนไหวกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ด้วยการลาออกหรือยุบสภานั้น"
ส่วนตัวเห็นว่า ทางออกของวิกฤตโควิด-19ในครั้งนี้ นายกฯควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะการลาออก จะไม่ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินสะดุดลง การเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ จะใช้เวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น ให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯในที่ประชุมรัฐสภา และจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถที่จะได้รัฐบาลชุดใหม่บริหารประเทศต่อไปในทันที
ส่วนการยุบสภาฯ จะมีปัญหาตามมามากมาย เช่น 1.ความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการเลือกตั้งประมาณ 3 เดือน 2.สถานการณ์ช่วงการระบาดของโควิด-19 ไม่เอื้ออำนวยต่อการหาเสียงเลือกตั้ง 3.ต้องใช้เวลาในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน เหมือนกับเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 4.ความผิดพลาดในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นความผิดพลาดในการบริหารราชการเป็นของรัฐบาล 5.การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่สำเร็จ การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดิม ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด และ6.เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณจัดการเลือกตั้งใหม่ น่าจะนำงบประมาณดังกล่าวมาซื้อวัคซีนฉีดให้กับประชาชนดีกว่า
"ผมเห็นว่าการลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เป็นทางออกที่ดีที่สุดของบ้านเมือง การลาออกจากตำแหน่งนายกฯ จะไม่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองแย่ลง หรือการบริหารราชการแผ่นดินขาดตอน เพราะถ้าประเทศชาติได้รัฐบาลใหม่ ที่ประชาชนมีความเชื่อมั่น ก็จะทำให้การแก้ปัญหาของประเทศ เป็นไปด้วยความราบรื่น ได้รับความร่วมมือ ศรัทธาเชื่อมั่น จากประชาชนทั่วทั้งประเทศเป็นอย่างดี" นายเทพไท ระบุ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวการแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ โดยให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมย้ายมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยสามารถทำได้หรือไม่ ว่า ตนไม่ขอตอบเรื่องดังกล่าวด้วยเหตุผลว่า ยังไม่มีการแต่งตั้ง หากไปตอบก่อนจะเป็นการย้ำว่ามีข่าวการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามกระทรวงจริง ซึ่งในอดีตก็มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามกระทรวงแบบนี้เยอะหลายครั้งแล้ว เช่น สมัยก่อนคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ไปเป็นปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จากนั้นมาเป็นปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายอภัย จันทนจุลกะ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน หรือเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็มาจากที่อื่น มาจากทหาร เป็นต้น
เมื่อถามว่าแสดงว่าสามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้ามกระทรวงกันได้ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถทำได้ สลับอธิบดี สลับปลัดกระทรวง โดยขึ้นอยู่กับเจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวง และจะต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีประกอบด้วย เนื่องจากจะต้องดูความเหมาะสมและความจำเป็น รวมถึงจะต้องคำนึงถึงคนว่าไปแล้วตำแหน่งจะตันอยู่แค่นั้น หรือไม่เจริญก้าวหน้าในกระทรวงนั้นหรือไม่ ก็ต้องมีการผ่องถ่าย ถ้าโยกคนหนึ่งออกไป เพื่อให้คนข้างในจะได้ขยับขึ้นไปได้ เป็นธรรมดา
เมื่อถามย้ำว่าถ้ามีการแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวจริงจะสามารถทำงานได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ ยืนยันยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณา และไม่ได้มีการตีกลับ ถ้ามีการตีกลับตนจะต้องรู้ ส่วนเขาจะกำลังคิดกันอยู่หรือไม่นั้น ตนไม่รู้
ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า นอกจากประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายรัฐบาล เรื่องการบริหารจัดการเรื่องโควิด ผิดพลาดแล้ว ยังมีกรณีที่หน่วยงานต่างๆใช้จังหวะสถานการณ์โควิด กระทำการทุจริต ซึ่งฝ่ายค้านได้ตั้งคณะทำงานติดตามตรวจสอบมาโดยตลอดตั้งแต่เดือน ก.พ. หลังจากนั้นเริ่มนำเรื่องต่างๆมากลั่นกรอง ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้าน โดยการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ได้เรียกหลายหน่วยงานมาตรวจสอบ แต่บางหน่วยค่อนข้างปกปิดข้อมูล ไม่ส่งข้อมูลให้ จึงอยากเตือนไปยังรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และข้าราชการต่างๆ วันนี้เป็นเวลาของประชาชนที่กำลังจะซักฟอก ดังนั้น อย่าย่ามใจ อย่าคิดว่ามีแบ๊คดี ขอให้ชวยกันนำพาประเทศ ใช้งบประมาณเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด
"รายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกยื่นอภิปราย แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ถ้าเปิดออกมาคงจะร้องอื้อหือ บางคนอยู่ในประเภทเห็นเงียบๆแต่กินเรียบ บางคนดูแล้วเป็นรัฐมนตรีโลกลืม แต่หลังบ้านพอใช้ได้ หากผู้นำฝ่ายค้านเปิดรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย เชื่อว่าประชาชนคงจะเห็นว่าใช่เลย ทั้งนี้ หลังการอภิปรายข้อมูลสำคัญจะถูกยื่นไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้มีการตรวจสอบต่อไปด้วย" นายจิรายุกล่าว
วันเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ และเสียชีวิตสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก พร้อมจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 ตามที่พรรคได้เสนอพิมพ์เขียวเอาไว้ 5 ข้อ ว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ของไทยนั้นจะมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และทีมแพทย์ ทำงานไม่เคยหยุดเพื่อที่จะหามาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ นายกฯให้ความสำคัญกับประชาชนและตระหนักถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของประชาชนอยู่แล้ว ทำทุกอย่างที่ทำได้ ซึ่งข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทย นายกฯได้ทำอยู่แล้วมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ทั้งจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit - ATK นำไปแจกจ่ายกับประชาชนทุกคนต่อไป และหากใครที่ผลเป็นบวกติดต่อสายด่วน สปสช. เพื่อขอรับยา และเข้ารับการรักษาแบบ Home Isolation และ Community Isolation เพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการอยู่ในระดับสีเขียวหรืออาการไม่รุนแรง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเร่งให้ดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ขณะที่การบริหารจัดการวัคซีนก็ทำอย่างต่อเนื่อง และจะมีวัคซีน mRNA เข้ามาตั้งแต่ปลายปีนี้ ไปถึงต้นปีหน้า
"เคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข น่าจะเข้าใจสถานการณ์ประเทศ และการทำงานของรัฐบาลในขณะนี้ได้ดีกว่าใคร แต่เหตุใดถึงทำเป็นหูหนวก ตาบอด ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะวันๆ หาแต่ประเด็นโจมตีคนอื่นเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง" นายเสกสกล กล่าว และว่า ก่อนหน้านี้เวลา 15.34 น. เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม คุณหญิงสุดารัตน์ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าวันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นลำดับ 1 ของโลก จากนั้นจึงมาแก้ไขข้อความว่าเป็นประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก คือก่อนที่จะออกมาโพสต์อะไรขอให้ติดตามข่าวสารและพิจารณาให้ดีก่อน เพราะเฟซบุ๊กของคุณหญิงสุดารัตน์ มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก และจะทำให้ประชาชนสับสนได้"
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า ขอให้นึกถึงประเทศชาติ และประชาชนด้วย ไม่ใช่นึกถึงแต่ตัวเอง เป็นคุณหญิงแต่ช่างกล้าเอาข้อความเท็จมาใส่ร้ายประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง คิดได้อย่างไร พฤติกรรมเช่นนี้ทำตัวเหมาะสมกับการเป็นคุณหญิงหรือไม่ ตนขอเดาว่าในสมองของคุณหญิงสุดารัตน์ มีอยู่สองเรื่อง คือ บีบให้นายกฯ ลาออกให้ได้ เพราะตนมีความหวังจะเป็นตัวเลือกแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่กับหวังให้มีการยุบสภาฯ เพราะพรรคไทยสร้างไทยเพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่จะได้มีส.ส.เข้าสภาฯ ในการเลือกตั้งสมัยหน้าอย่างนั้นใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ จึงปั่นกระแสบิดเบือนด้อยค่ารัฐบาลทุกวัน เพราะมีเป้าหมายสองข้อนี้ เป็นการหวังผลการเมืองส่วนตน โดยไม่สนใจที่จะลงมือช่วยกันแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ประชาชนจะเป็นจะตายช่างปะไร ขอเพียงให้ตนเองได้มีอำนาจอย่างนั้นใช่ไหม
"ผมก็ต้องฝากถึงพี่น้องประชาชนคนไทยว่า พรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนที่จงใจบิดเบือนปั่นกระแสทำลายบ้านเมืองทำลายประเทศชาติประชาชนเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เล่นการเมืองบนความทุกข์ยากของประชาชนในยามวิกฤต ไม่สมควรที่จะให้มีที่ยืนบนถนนการเมือง ต้องจดจำเขียนแปะติดฝาบ้านไว้ อย่าให้ได้ผุดได้เกิดทางการเมืองอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองหรือนักการเมืองหน้าไหนก็ตาม" นายเสกสกล กล่าว