เก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจะกลายเป็นที่รองรับ การแต่งตั้งโยกย้ายทหารไปแล้ว กลายเป็นเก้าอี้ ที่คนใน สมช.ต้องทำใจให้ยอมรับ และชินชาว่าจะต้องเป็น บิ๊กทหาร มานั่งเสียบยอด แม้ปีนี้ จะมี รองเลขาฯสมช. ที่ยังไม่เกษียณจ่ออยู่ถึง 3 คน คือ รัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ และ ศิริวรรณ สุคนธมาน และ ฉัตรชัย บางชวด แต่ก็ดูจะไม่เข้าตา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกทั้ง รัชกรณ์ และ ฉัตรชัย ยังมีอายุราชการเหลืออีกหลายปี พล.อ.ประยุทธ์ จึงส่ง รัชกรณ์ เพื่อนสิงห์ดำรัฐศาสตร์จุฬาฯ ร่วมรุ่นของ นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาฯนายกฯ ไปเรียน วปอ.64 ด้วยกัน ส่วน ศิริวรรณ แม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ของ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย ก็ตาม แต่ความเป็นผู้หญิง ก็ไม่เข้าตา นายกฯ และฝ่ายความมั่นคง เพราะในอดีต ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 มาเป็นนายกฯนั้น ได้ยอมให้ รองเลขาสมช. ที่เป็นพลเรือน ขึ้นมาเป็นเลขาฯสมช. แค่คนเดียว คือ อนุสิษฐ คุณากร ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง ให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง แต่จากนั้นมาตั้งแต่ 2558 ทหาร จาก บก.ทัพไทย และ กลาโหม ก็ยึดเก้าอี้ เลขาฯสมช. มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ “บิ๊กแอ๊ว” พล.อ.ทวีป เนตรนิยม พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ต่อด้วย พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา และ มา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ คนปัจจุบัน ที่กำลังจะเกษียณ 30 ก.ย.นี้ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด จึงเสนอชื่อ “บิ๊กไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร รุ่นน้องทหารม้า ตท.22 ขณะที่กลาโหม เสนอชื่อ “บิ๊กโจ้” พล.อ.ณตฐพล บุญงาม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษปลัดกลาโหม แกนนำ ตท.21 ที่เคย ถูกวางตัว เป็น เลขาฯสมช.ไว้ ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน มาให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณา ทั้ง พล.อ.ณตฐพล และ พล.อ.สุพจน์ ล้วนเคยเป็น แคนดิเดท ผบ.ทหารสูงสุด แต่เมื่อ การโยกย้ายปี 2562 “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการ ที่ขณะนั้นเป็น ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ. 904 ส่ง พล.อ.เฉลิมพล ทหารม้าคอแดง ให้ข้ามจากทบ. มาเป็น เสธ.ทหาร เพื่อจ่อขึ้น ผบ.ทหารสูงสุด ที่เป็นทหารคอแดง คนแรก พล.อ.เฉลิมพล จึงต้องหาตำแหน่งชดเชย ให้ พล.อ. ณตฐพล และ พล.อ.สุพจน์ ในการโยกย้ายคราวนี้ และมีแนวโน้มว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือก พล.อ.สุพจน์ ตามที่ พล.อ.เฉลิมพล เสนอมา เพราะจะทำให้การจัดโผของ บก.ทัพไทย ลงตัวง่ายขึ้น อีกทั้ง พล.อ.สุพจน์ มีอายุราชการถึง ต.ค. 2566 หาก เป็นเลขาฯสมช. จะนั่งยาว 2 ปี เลยทีเดียว พล.อ.สุพจน์ ยังเป็นทหารม้า เช่นเดียวกับ พล.อ.เฉลิมพล จึงพยายาม สนับสนุน เต็มที่ แม้จะเป็นรุ่นน้อง ก็ตาม แต่พล.อ.เฉลิมพล ไม่ได้เสนอชื่อ เพื่อน ตท.21 อย่าง “บิ๊กโป๊ป” พล.อ.ชัชชัย ภัทรนาวิก ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ(สปท.) แม้จะถูกมองว่า มีคุณสมบัติตรงสเปค เลขาฯสมช. เพราะมีความเป็นนายทหารอินเตอร์ เรียนจบ รร. เสธ.ทบ.เยอรมัน และ วปอ.ฝรั่งเศส และ เป็น ผช.ทูตทหาร รัสเซีย และ เป็น อดีตผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย (ผบ.ศตก.) ที่ผ่านการฝึกกับต่างประเทศมานับไม่ถ้วน ที่สำคัญคือ เป็นทีมงานสายความมั่นคง ของ พล.อ.ประวิตร ด้วย แต่ก็คาดกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องยกเก้าอี้ เลขาฯสมช. ให้กองทัพ ใช้แก้ปัญหาการโยกย้ายทหาร และ เลือก พล.อ.สุพจน์ ที่เป็นนักรบเหรียญรามา ในสมรภูมิร่มเกล้า จนได้รางวัลเกียรติยศจักรดาว เมื่อปี 2562 ในฐานะศิษย์เก่า ตท.22 เคยเป็น เจ้ากรมยุทธการทหาร ที่ก็เคยเป็นหลักในการฝึกร่วมผสมคอบร้า โกลด์ มา และเคยไปเรียนภาษาอังกฤษแบบอเมริกันที่เทกซัส และจบ รร.เสธ.ทบ.สหรัฐ Intermediate Level ที่แคนซัส ส่วน พล.อ.ณตฐพล ซึ่งเป็น อดีต ผช.ทูตทหาร ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และอดีตเจ้ากรมข่าวทหาร นั้น คาดว่า จะได้โยกจากกลาโหม กลับ บก.ทัพไทย ถิ่นเก่า ไปเป็น เสนาธิการทหาร แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคย กับ พล.อ.สุพจน์ แต่ก็ถือว่า เป็นนักรบเหรียญรามา ด้วยกัน แต่ต่างสมรภูมิต่างเวลา อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา พล.อ.เฉลิมพล ก็ชง พล.อ.สุพจน์ ด้วยการให้ประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ และ ศบค. แทน และมอบหมายให้ลงพื้นที่ ตรวจจุดตรวจต่างๆ แทน แต่โดยสถานการณ์โควิด ที่ยังไม่คลี่คลาย เลขาฯสมช.คนใหม่ จะต้องมีบทบาท ใน ศบค. แต่อาจจะไม่เท่า พล.อ.ณัฐพล ที่รับศึกหนักมาตลอด เกือบปี ที่เป็น เลขาฯสมช. และคาดกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดึงตัว พล.อ.ณัฐพล ให้ช่วยงานต่อ แม้จะเกษียณแล้ว เพื่อให้งานต่อเนื่อง เลขา สมช.คนใหม่ จะได้มีเวลา ทำงานในด้านความมั่นคงอย่างเต็มที่ แต่กระนั้นก็ตาม ยังมีการถอดรหัส คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กล่าวถึง การเลือก ข้าราชการระดับสูง ในที่ประชุม ครม. ที่มีการตีความว่า หมายถึงทั้งปลัดมหาดไทย และ เลขาฯสมช.คนใหม่ว่า จะต้องเป็นคนที่ต้องสามารถทำงานเชิงรุกได้ แก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีวิสัยทัศน์ในการทำงานสอดคล้อง กับนโยบายของรัฐบาล ต้องมีความสามารถ และเป็นที่ยอมรับ แล้วก็เป็นที่ประจักษ์ได้จากผลงานที่ผ่านมา ต้องมีความรู้ ความชำนาญความสามารถในหน้าที่เป็นอย่างดีซึ่งในเรื่องของการทำงาน ในอดีตมีผลงานที่ชัดเจน ที่สำคัญ จะต้องเป็นคนดีเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นคนขยัน อดทน และก็จะต้องมีใจจงรักภักดีด้วย ที่คาดว่า จะมีการแต่งตั้ง เลขาฯสมช.คนใหม่ โดยนำเข้าที่ประชุม ครม. ราวต้นเดือน ก.ย. ที่เวลานั้น โผทหาร ได้ถึงมือ นายกฯ และนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ที่รอดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีเซอร์ไพร้ซ์อะไร หรือไม่ เพราะการเลือก เลขาฯสมช. อาจต้อง ปรึกษาหารือ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงด้วย เพราะมีข่าวสะพัดว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ เลือก พล.อ.ชัชชัย เป็นเลขาฯสมช. จะทำให้การโยกย้ายของ บก.ทัพไทย ไม่ลงตัว เพราะจะต้องหาตำแหน่ง รองผบ.ทหารสูงสุด รองรับ แต่ก็จะสะเทือน โผของ ทัพไทย ไม่น้อย ยกเว้น เสียแต่จะส่ง พล.อ.สุพจน์ ข้ามมาเป็น รองปลัดกลาโหม เพื่อแลกกับการส่ง พล.อ.ณตฐพล ข้ามจากกลาโหม ไปเป็น เสนาธิการทหาร เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีชื่อ พล.อ.สุพจน์ มาชิง ปลัดกลาโหม แต่เจอความแข็ง ของ ตท.20 ที่ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม น้องรัก “บิ๊กป้อม” วางตัว “บิ๊กหน่อย” พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสธ.ทบ.ให้ข้ามมา เป็นปลัดกลาโหม ไว้แล้ว ดังนั้น พล.อ.สุพจน์ มาเป็น รองปลัดกลาโหม จ่อเป็นปลัดกลาโหม ต่อจาก พล.อ.วรเกียรติ ในปลายปี 2565 ก็ได้ แต่เชื่อกันว่า พล.อ.เฉลิมพล คงผลักดัน พล.อ.สุพจน์ เป็น เลขาฯสมช.เต็มที่ และท้ายที่สุด ก็มีสัญญาณแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือก พล.อ.สุพจน์ เป็นเลขาฯสมช. และ เมื่อตำแหน่ง เลขาฯสมช.ลงตัว แล้ว การจัดโผทหาร ก็เดินหน้าต่อ โดย มีนัดหมาย ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร หรือ บอร์ด 7 เสือกลาโหม กลางเดือน ส.ค. นี้ เพื่อเคาะทุกตำแหน่ง จัดโผทหาร เสร็จแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ไปทำสงครามโควิด และ ทำศึกการเมือง ที่กำลังหนักหน่วง ต่ออย่างเต็มที่