วันที่ 28 ก.ค.64 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีมีการออกหนังสือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่าโดยหลักการที่มีคำสั่งดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านั้นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต้องทำด้วยวิธีอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) ซึ่งใช้เวลารอนานกว่าผลจะออกประมาณ 24-72 ชั่วโมง ทำให้การควบคุมโรคและการวางแผนการรักษาล่าช้า บางคนไปนอนรอที่บ้าน บางคนจากอาการสีเขียวกลายเป็นสีเหลือง สีแดง และการจะเข้ารักษาใน รพ.ก็ต้องมีผลตรวจอาร์ที-พีซีอาร์เพื่อยืนยันกับทาง รพ.ในการเข้ารักษา “แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น ประกอบกับการตรวจอาร์ที-พีซีอาร์ใช้เวลานาน จึงมีนโยบายให้ตรวจแบบแอนติเจน เทสต์ คิท หรือเอทีเค (ATK) มาช่วย เพราะจะทำให้ทราบผลรวดเร็ว สธ.จึงสนับสนุนให้ใช้เอทีเค ถ้าผลบวกก็ให้พิจารณาทำโฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation) ได้เลย แต่บางกรณีไม่ใช่รักษาที่บ้านได้ อาจต้องรักษาในชุมชนหรือโรงพยาบาล ฯลฯ กลุ่มนี้ต้องมีการยืนยันด้วยวิธีการทำอาร์ที-พีซีอาร์ ซึ่งกลุ่มนี้เราจะเรียกว่า Probable case หรือกลุ่มสงสัยว่าจะเป็น/ป่วย แต่อาจไม่เป็นก็ได้ เพราะการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท เป็นการตรวจเร็วแบบเบื้องต้น ดังนั้น เราจะแยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มสงสัยว่าจะเป็น/ป่วย คือ Probable case ส่วนอีกกลุ่มที่ต้องทำอาร์ที-พีซีอาร์และผลเป็นบวก จะเรียกว่า Confirm case หรือผู้ป่วยโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจน วันนี้ (28 ก.ค.64) ได้ลงนามประกาศแจ้งไปยังผู้ตรวจราชการ สธ.และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) แล้ว” สำหรับหนังสือที่ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัด สธ.หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ.ลงนามล่าสุดนั้น ใจความสำคัญเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อสั่งการให้ชัดเจนขึ้น โดยระบุว่า ตามที่หนังสือที่อ้างถึง ข้อสั่งการข้อ 5 ให้ยกเลิกการทำ Active Case Finding (ACF) โดยการทำ RT-PCR และให้ใช้ Antigen test self-test Kits แทนในการคัดกรองเบื้องต้น โดยกรณีที่ผู้ป่วยพบผลเป็นบวกจะเป็นกลุ่ม Probable case ซึ่งยังไม่นับเป็นกลุ่มป่วย ไม่ต้องรายงานในระบบการรายงานโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางในการปฏิบัติตามที่กรมวิชาการกำหนด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงขอยกเลิกคำสั่งข้อ 5 ตามข้อสั่งการข้างต้น และให้ใช้ข้อความแทน ดังนี้ ข้อ 5 การดำเนินการ Active Case Finding (ACF) ให้ดำเนินการดังนี้ 5.1 ปรับให้ใช้ Antigen test Kit (ATK) เข้ามาใช้เสริมหรือแทน RT-PCR ในกรณีที่มีข้อจำกัด 5.2 กรณี Antigen test Kit (ATK) ให้ผลบวกให้รายงานเป็น Probable case ตามระบบรายงานที่กำหนด และหากเคสดังกล่าวได้รับการตรวจยืนยันด้วย RT-PCR ให้รายงานผู้ป่วยยืนยันเป็น confirmed case ต่อไป