เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า การปฏิบัติการฝนหลวงได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก กองทัพอากาศ ทั้งด้านกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ โดยมีการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 13 หน่วย ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อดูแลในพื้นที่การเกษตรที่มีน้ำใช้การไม่เพียงพอ การเติมน้ำให้เขื่อนเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนใช้ในการอุปโภค บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และรักษาระบบนิเวศน์ แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน 2 เดือนเศษแล้วก็ตาม ยังพบว่ามีหลายพื้นที่เกิดปริมาณฝนในลักษณะกระจายตัว มีฝนตกเพียงเล็กน้อย ถึงปานกลาง แต่ในบางพื้นที่เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากอยู่ในขณะนี้ และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรง จึงทำให้ลมชั้นบนในระดับปฏิบัติการมีกำลังแรงขึ้น จึงเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติการ รวมถึงเมฆชั้นกลาง และชั้นสูงมีจำนวนมากจึงไม่สามารถปฏิบัติการในขั้นตอนก่อเมฆ รวมถึงเมฆไม่สามารถพัฒนาไปในทางที่จะเกิดฝนตกได้
ส่วนทางด้านแผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 01.00 น. พบว่ามีหย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณอ่าวเบงกอลดูดความชื้นจากทะเลอันดามัน ทำให้ความชื้นที่พัดเข้าประเทศไทยเพื่อให้เกิดฝนนั้นลดน้อยลง อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้เกิดร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมาร์ มุ่งหน้าผ่านไปทางจังหวัดเชียงราย พะเยา และเข้าสู่ประเทศลาว เวียดนามต่อไป อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนักได้ สำหรับการแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักในวันนี้นั้น ทางซีกตะวันตกของประเทศตั้งแต่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงไปถึงจังหวัดราชบุรี รวมถึงภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด และยังได้เตือนให้ประชาชนบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี ระวังภัยจากฝนตกหนักจนอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ และให้ติดตามข่าวการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวานนี้ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 1 หน่วยปฏิบัติการทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำฝน 0.1–4.2 มิลลิเมตร
ขณะที่แผนปฏิบัติการฝนหลวงในวันนี้ทั้ง 12 หน่วยทั่วประเทศขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวันเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวง หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที และหน่วยฯ จ.ตาก ในวันนี้ไม่สามารถปฏิบัติการฝนหลวงได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด–19 เข็มที่ 1
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมส่งบทความในหัวข้อ “ความรักของแม่” เพื่อเล่าเรื่องราวความรัก ความผูกพัน ความประทับใจที่มีต่อแม่ หรือเรื่องราวความรัก ความห่วงใยที่แม่มีต่อลูก โดยส่งบทความได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ทางกล่องข้อความ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และสามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
