เมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการแจกจ่ายอาหารพร้อมมอบอาหารให้แก่แรงงานแคมป์ก่อสร้างย่านจัตุจักรที่ถูกสั่งปิดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้มอบหมายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการแจกจ่ายอาหารพร้อมมอบอาหารแก่แรงงานต่างด้าวในแคมป์ก่อสร้างที่มีคำสั่งปิดตามประกาศกรุงเทพมหานครย่านจัตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 โดยแคมป์ที่มาตรวจเยี่ยมในวันนี้เป็นแคมป์ของบริษัท เวลเกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เลขที่ 44/3 ถนน กำแพงเพชร 6 แขวง ลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีแรงงานในแคมป์จำนวน 130 คน ซึ่งในแคมป์นี้แรงงานทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100% โดยกรมการจัดหางานได้รับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรีสุชาติ ให้ติดตามช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวในแคมป์ก่อสร้างด้านอาหารอย่างใกล้ชิด ตามดำริพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ที่มีความห่วงใยสุขภาพและความเป็นอยู่ของแรงงานในแคมป์ที่ถูกปิดจากประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564 เพื่อควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม โดยตั้งแต่วันที่ 12 – 27 กรกฎาคม 2564 กรมการจัดหางานได้สนับสนุนค่าอาหารวันละ 1 มื้อ ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่คนต่างด้าวด้านอาหาร สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร มอบหมายสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 รวบรวมอาหารและนำส่งแคมป์คนงานในพื้นที่รับผิดชอบ ในส่วนปริมณฑลมอบหมายสำนักงานจัดหางานจังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรปราการดูแลในพื้นที่ของตน ซึ่งที่ผ่านมาการแจกจ่ายข้าวกล่องเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่เสนอต่อกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง โดยจัดทำข้าวกล่องทั้งสิ้น 1,250,000 กล่อง แบ่งแจกจ่ายในกรุงเทพมหานคร จำนวน 750,000 กล่อง และปริมณฑล จำนวน 500,000 กล่อง การดำเนินการในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แรงงานในแคมป์แล้ว ยังช่วยให้ชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอย สมาคมภัตตาคารไทย และผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณแคมป์งานที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมีรายได้จากการสั่งซื้ออาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายแก่แรงงานในแคมป์อีกด้วย ด้านผู้ดูแลแคมป์คนงาน กล่าวว่า ขอขอบคุณภาครัฐ นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานที่เล็งเห็นความสำคัญแรงงานที่สร้างเศรษฐกิจ ช่วยแบ่งเบาภาระบริษัท แรงงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากเดิมที่มีความตึงเครียดจากการแพร่กระจายไวรัสโควิด มีแต่ความกังวล ปัจจุบันแรงงานในแคมป์รู้วิธีป้องกัน ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น การจะก้าวพ้นวิกฤตินี้ทุกคนต้องให้ความร่วมมือเป็นทีมเวิร์คเพื่อพ้นวิกฤติ จากที่สัมผัสแรงงานมาหลายปีทั้งเมียนมา กัมพูชา ลาว ทุกคนก็ยินดีจะให้ความร่วมมือ